
Smart Glasses, Smart Gadgets 4 แว่นตาอัจฉริยะ ใช้งานแบบคูล ๆ ในหลากหลายไลฟ์สไตล์
นิตยสาร Trust ฉบับที่ 74 | คอลัมน์ Variety
Smart Glasses หรือแว่นตาอัจฉริยะกำลังกลายเป็นอีกอุปกรณ์ในชีวิตประจำวันที่ทำให้ผู้ใช้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ผ่านแว่นตาอัจฉริยะได้ไม่ต่างจาก Smart Watch ด้วยเทคโนโลยีทั้ง AI และ AR รวมถึงนวัตกรรมอื่น ๆ ที่ถูกนำมาใช้พัฒนาการมองเห็นที่มีประสิทธิภาพ เพียบพร้อมไปกับงานดีไซน์ที่สามารถแมตช์ไปกับไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคลได้อย่างง่าย ๆ และสะดวกสบาย เช่น ออกกำลังกาย เล่นกีฬา เดินทาง ทำงาน ฯลฯ
และนี่คือ 4 แว่นตาอัจฉริยะที่ถูกพูดถึงว่า โดดเด่นในประสิทธิภาพด้านเทคโนโลยี ‘บ่อยที่สุด’ ของปี 2025
แว่นตาอัจฉริยะของสายสปอร์ต สาวก ‘Oakley’
เปิดตัวไปไม่นานสำหรับแว่นตาอัจฉริยะ ‘Oakley Meta HSTN’ แว่นตาของสายสปอร์ต โดยเฉพาะกลุ่มนักกีฬา ซึ่งเป็นผลงานการสร้างสรรค์ร่วมกันระหว่าง Meta Platforms Inc. และแบรนด์ดังระดับโลก Oakley โดยประสานเทคโนโลยี AI เข้ากับดีไซน์สปอร์ตของ Oakley ที่มาพร้อมคุณสมบัติเด่น คือ กล้องถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอที่มีความละเอียดสูงสุด Ultra HD (3K) พร้อมลำโพง 5 ตัว ฝังอยู่ขาแว่นสำหรับฟังเพลงและบทสนทนา โดยควบคุมการทำงานต่าง ๆ ด้วยระบบทัชแพด (แผงสัมผัส) ที่ขาแว่นด้านข้าง สามารถใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และเคสชาร์จยังสามารถเก็บพลังงานได้อีก 48 ชั่วโมง กันน้ำ กันเหงื่อน กันละอองน้ำ สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนด้วย Bluetooth เพื่อใช้ AI แบบเรียลไทม์ โดย AI มาในรูปแบบ ‘เสียง’ ผ่านคำสั่ง ‘Hey Meta’
แว่นตารุ่นนี้วางจำหน่ายแล้วในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน เยอรมนี สวีเดน นอร์เวย์ ฟินแลนด์ เดนมาร์ก ออสเตรเลีย เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นประเทศที่มีการแข่งขันดุเดือดในตลาดอุปกรณ์สวมใส่ ด้วยราคาเริ่มต้น 399-499 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 13,000-16,000 บาท) มีทั้งหมด 6 สี (วางจำหน่ายออนไลน์ที่ meta.com
Ray-Ban Meta
แว่นตาอัจริยะของสายไลฟ์สตรีมมิง
Ray-Ban Meta เป็นแว่นตาอัจฉริยะที่ Meta Platforms Inc. ร่วมกับแบรนด์ Ray-Ban พัฒนาต่อจากแว่นตาอัจฉริยะรุ่นแรก Ray-Ban Stories ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2023 มุ่งตลาดกลุ่มไลฟ์สตรีมมิงใน Instagram และ Facebook ที่เพียงใส่แว่นอัจฉริยะนี้ก็สามารถไลฟ์สดง่าย ๆ โดยไม่ต้องคอยถือโทรศัพท์ให้เกะกะ ในรูปแบบของดีไซน์ที่ดูเก๋และใช้งานง่าย มีลำโพงและไมโครโฟนในตัวถึง 5 ตัว สำหรับการฟังและพูดคุย พร้อมฟังก์ชันที่สามารถเห็นคอมเมนต์ อีกทั้งกล้องอัลตราไวต์ 12 ล้านเมกะพิกเซลที่ทรงพลังจนบันทึกวิดีโอ 1080p สูงสุด 60 วินาที ทำให้ภาพถ่ายและวิดีโอคมชัดมาก แต่ด้วยจำกัดไว้เพียง 60 วินาที ดังนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการถ่ายวิดีโอที่ยาวขึ้น สามารถสตรีมฟุตเทจแบบสดจากแว่นตาไปยัง Instagram และ Facebook ได้โดยตรง โดยใช้อุปกรณ์ เช่น สมาร์ตโฟน จับคู่เชื่อมต่อได้
Ray-Ban Meta สั่งการด้วยระบบทัชแพดที่ใช้งานง่าย มีหลายสีให้เลือก อาทิ สียีน สีคาราเมล สีดำ Smokey Rebel Black ทำให้มีลักษณะคล้ายกับแว่นตาทั่วไปมากขึ้น พร้อมด้วยเคสใส่แว่นตาอัจฉริยะที่ทำให้เหมือนกระเป๋าแว่น Ray-Ban แบบคลาสสิกทุกประการ (วางจำหน่ายออนไลน์ที่ meta.com)
แว่นตาอัจฉริยะ Lenovo ThinkReality A3
เพื่องานประชุมออนไลน์
Lenovo ThinkReality A3 ถูกกล่าวถึงว่า เป็นหนึ่งในแว่นตาอัจฉริยะที่ดีที่สุดของปี 2025 ที่ใช้งาน AI ได้อย่างคุ้มค่าสำหรับงานธุรกิจและอุตสาหกรรมที่รองรับการเชื่อมต่อกับแล็ปท็อปและสมาร์ตโฟน โดยสามารถสร้างหน้าจอเสมือนได้สูงสุด 5 จอ (Discrete Graphics) และ 3 จอ (Integrated Graphics) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน มีกล้อง 8 ล้านพิกเซลสำหรับวิดีโอขนาด 1080p ทำให้เหมาะกับนักธุรกิจที่ต้องการอุปกรณ์ช่วยเพิ่ม Productivity องค์กรที่ต้องการแว่นตาอัจฉริยะสำหรับงานอุตสาหกรรม และผู้ที่ต้องการแว่นสำหรับประชุมออนไลน์ที่มีหน้าจอเสมือน ด้วยน้ำหนักของแว่นเพียง 130 กรัม ออกแบบให้พับได้ พกพาสะดวก ส่วนระบบเสียงเป็นไมโครโฟนลดเสียงรบกวน 3 ตัว และลำโพงสเตอริโอ
การใช้งาน Lenovo ThinkReality A3 มีสองรุ่น คือ รุ่น PC ต้องใช้เครื่องมือและแอปพลิเคชันของ Windows ส่วน A3 รุ่น Industrial Edition และใช้แพลตฟอร์มของซอฟต์แวร์ ThinkReality ของ Motorola สำหรับงาน AR แบบแฮนด์ฟรี โดย Lenovo ThinkReality A3 เน้นการใช้งานภายในองค์กร
Vuzix Blade 2 แว่นตาอัจฉริยะของกิจกรรมภาคสนาม
Vuzix Blade 2 เป็นแว่นตาอัจฉริยะเน้นการใช้งานที่สะดวกสบายและการใช้งานแบบแฮนด์ฟรี โดยมีระบบ Android ในตัว พร้อมหน้าจอโปร่งแสงที่ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำให้เหมาะกับเหล่านักเดินทางที่ต้องการแว่นพร้อมระบบนำทางแบบเรียลไทม์ รวมไปถึงนักธุรกิจและช่างเทคนิคที่ต้องการข้อมูลแบบเรียลไทม์พร้อมความต้องการใช้งานแบบแฮนด์ฟรีขณะทำงาน
การใช้งาน Vuzix Blade 2 เชื่อมต่อ WiFi และ Bluetooth พร้อมลำโพงสเตอริโอและไมโครโฟนลดเสียงรบกวน 47 ควบคุมการทำงานด้วยทัชแพดข้างแว่น และควบคุมด้วยเสียง เป็นอีกเทคโนโลยี AR ที่เหมาะกับการทำงานภาคสนาม ในราคา 799 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 26,000 บาท




