คัดให้คุ้มประกันอุบัติเหตุสำหรับคนวัยเก๋า

file

“Complete Aged Society” หรือสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ จะเป็นนิยามใหม่สำหรับประเทศไทย ในปีหน้า ไม่ใช่แค่เพียงการก้าวเข้าสู่สังคม ผู้สูงอายุอีกต่อไป ด้วยตัวเลขสถิติประชากรไทย ที่มีอายุเกินกว่า 60 ปี มากกว่า 20% และสัดส่วนประชากรไทยที่มีอายุมากกว่า 65 ปี มากกว่า 14% ของประชากรทั้งหมด ทำให้ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในปีหน้า

และนอกจากตัวเลขผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว อายุขัยเฉลี่ย (Life Expectancy) ของคนไทยยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย จาก 49.32 ปี ในปี 1950 เพิ่มขึ้นเป็น 77.19 ปี ในปัจจุบัน (2020) และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 88.31 ปี ในปี 2100 ซึ่งในภาพใหญ่ถือเป็นความท้าทายอย่างมากของประเทศไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการขยายอายุเกษียณออกไป การสนับสนุนให้บริษัทมีการจ้างงานผู้สูงอายุ การเพิ่มทักษะให้เหมาะสมกับแรงงาน รวมถึงการมีส่วนร่วมและประสานงานต่างๆ ทั้งจากฝั่งภาครัฐฯ และเอกชนที่เพิ่มมากขึ้น ล้วนเป็นแนวทางหรือนโยบายที่ถูกเสนอและใช้ในแต่ละประเทศเพื่อรับมือกับสถานการณ์ผู้สูงอายุ

  ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่กำลังเจอกับสถานการณ์ที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่าปัจจุบันประชากรโลกที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป มีสัดส่วนราว 1 ใน 9 ของประชากรทั่วโลก และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 5 ภายในปี ค.ศ. 2050 และผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จะมีจำนวนราว 2 พันล้านคนหรือคิดเป็นราว 22% ของประชากรโลก ตามแสดงในแผนภาพที่ 1 โดยจะเห็นได้ว่าแนวโน้มประชากรทั่วโลกจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ และในหลายๆ ประเทศจะมีสัดส่วนกว่า 30% ของประชากรเป็นคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งประเทศไทยเองก็เป็น 1 ในนั้น

file

ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ เงาตามตัวผู้สูงอายุ

แต่สำหรับเราซึ่งเป็นหน่วยย่อยในระดับบุคคลและครอบครัว สิ่งที่เป็นภัยต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่เราต้องให้ความสำคัญคือ ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราเป็นผู้สูงอายุหรือมีผู้สูงอายุในครอบครัว เพราะค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพถือได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้สูงอายุ และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต

ไม่ว่าจะเกิดจากการป่วยเป็นโรคร้ายแรง อาทิ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น รวมถึงการเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้มและการพลัดตกจากที่สูงของคนไทย โดย 1 ใน 3 ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี หรือสูงถึง 1,600 คน ในปี 2018 (เฉลี่ยวันละ 4 ราย) ซึ่งถือเป็นสาเหตุการตายอันดับ 2 ในกลุ่มการบาดเจ็บโดยไม่ตั้งใจ

อีกทั้งอายุที่เพิ่มขึ้นยังส่งผลให้มีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นด้วย โดยอาการที่พบบ่อยจากการเกิดอุบัติเหตุในผู้สูงอายุ คือ กระดูกสะโพกหัก การกระทบกระเทือนที่สมอง รวมถึงการบาดเจ็บร่วมกันในหลายอวัยวะ อาทิ ศีรษะ อก ท้อง สะโพก หลัง แขน และขา เป็นต้น ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมากตกแก่ครอบครัว ทั้งยังต้องใช้เวลาในการรักษาตัวที่นานกว่าคนอายุน้อย

โอนความเสี่ยงด้านสุขภาพให้ประกัน

ด้วยเหตุผลข้างต้น ทั้งอายุขัยเฉลี่ยที่เพิ่มสูงขึ้น ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุในผู้สูงอายุ บวกกับค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การซื้อประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุ
จะสามารถ “โอนความเสี่ยง” ด้านภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ไปให้แก่บริษัทประกันได้

โดยผลประโยชน์และความคุ้มครองที่เราต้องให้ความสำคัญในการพิจารณาประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุ มีดังนี้

1.อายุที่รับประกันภัย ถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดประการหนึ่ง เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีโอกาสเจ็บป่วยด้วยสาเหตุต่างๆ มากกว่าผู้ที่มีอายุน้อย ทำให้มีความเสี่ยงมากกว่าในมุมมองของบริษัทประกันและอาจถูกปฏิเสธการรับทำประกันในช่วงอายุมากๆ ได้ โดยในปัจจุบัน ตลาดประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุมีกรมธรรม์ที่คุ้มครองถึงอายุ 100 ปีตอบโจทย์ของสังคมผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มอายุยืนมากขึ้นได้อย่างดี

2.ผลประโยชน์และความคุ้มครองจากการเสียชีวิต อุบัติเหตุทั่วไป ถูกฆาตกรรมหรือทำร้ายร่างกาย หรือการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ในกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุแต่ละบริษัทอาจมีการแบ่งความคุ้มครองข้างต้นแยกออกจากกันหรือรวมไว้ด้วยกัน ซึ่งมีผลต่อวงเงินความคุ้มครองที่แตกต่างกัน โดยการเลือกกรมธรรม์ที่มีการรวมผลประโยชน์ในแต่ละรายการเข้าไว้ด้วยกัน อาจช่วยให้ได้วงเงินที่มากขึ้นในการรักษาพยาบาลจากการเกิดอุบัติเหตุ

3.ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ ในตลาดประกันอุบัติเหตุเพื่อผู้สูงอายุ มีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุหลักๆ อยู่ 2 รูปแบบ คือ ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่อครั้ง และให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาต่อปี ซึ่งมักมีวงเงินที่ไม่มากนักโดยการเจ็บป่วยด้วยอุบัติเหตุอาจมีลักษณะเป็น Day Case หรือเป็นการเข้ารับการรักษาพยาบาลภายในวัน (OPD) ไม่ได้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลเกินกว่า 6 ชั่วโมง (ผู้ป่วยใน หรือ IPD) ทำให้เหมาะต่อการเลือกรับความคุ้มครองต่อครั้งมากกว่าต่อปี

แต่หากเป็นการเจ็บป่วยรุนแรงที่ต้องรับการรักษาแบบผู้ป่วยใน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูง การเลือกใช้ประกันสุขภาพแบบเหมา อาจเหมาะกว่าประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากต้องใช้เงินค่ารักษาพยาบาลเกินกว่าวงเงินความคุ้มครองของประกันอุบัติเหตุ 4.บริการดูแลสุขภาพ Nursing at Home เนื่องจากการประสบอุบัติเหตุในผู้สูงอายุ มักต้องมีการติดตามและรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำกายภาพบำบัดแม้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทำให้การมีความคุ้มครองครอบคลุมถึงการรักษาตัวในที่พักอาศัยจะช่วยอำนวยความสะดวก อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ป่วยได้อย่างมาก

จะเห็นได้ว่า ในยุคปัจจุบันที่ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ยุค Complete Aged Society หรือสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งการมีอายุที่เพิ่มขึ้นจะตามมาด้วยความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่มากขึ้น กระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินส่วนบุคคลและครอบครัว อีกทั้งยังอาจมีผลทำให้รูปแบบการดำเนินชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงไป

ดังนั้น การมีประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงอายุจะช่วยโอนความเสี่ยงภัยในรูปของค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นไปให้กับบริษัทประกันผู้รับทำประกันได้ ส่งผลให้บุคคลและครอบครัวมีเงินในการรักษาตัว ตลอดจนสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดผลกระทบต่อแผนการเงินในระยะยาวอีกด้วย

==================================================

เผยแพร่ครั้งแรกในบทความ Health Protection Advisory: Trust Magazine

บทความล่าสุด

หุ้นกลุ่ม Healthcare ทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีหุ้นโลก

โพสต์เมื่อ 26 เมษายน 2567

ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา หุ้นกลุ่ม Healthcare กลับมาสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น จากแนวโน้มการเติบโตที่คาดว่าจะสูงกว่าตลาดโดยรวมในปีนี้ ในขณะที่ยังซื้อขายในระดับราคาที่ไม่แพงโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกลุ่มเทคโนโลยีที่เติบโตในระดับใกล้เคียงกัน ทำให้ปีนี้มีโอกาสสูงที่กลุ่ม Healthcare จะกลับมาทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีตลาดหุ้นโลก

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตสร้างกำไร ขายหุ้นสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น เบนเข็มลงทุน “หุ้น Asia ex Japan”

โพสต์เมื่อ 26 เมษายน 2567

ในปี 2024 เศรษฐกิจโลกภาพรวมเติบโตดีกว่าคาด โดยภูมิภาคที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดคือ ภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่จะเติบโตได้ดีในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว และยังเป็นปีแห่งโอกาส

อ่านต่อ >>

จับจังหวะทำกำไร กับขาขึ้นรอบใหม่ของตลาดหุ้น Asia

โพสต์เมื่อ 26 เมษายน 2567

ตลาดหุ้นเอเชีย (Asia ex Japan) ถือเป็นตลาดหุ้นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงไม่แพ้ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) โดยเฉพาะในฝั่งของภาคการผลิตที่บริษัทยักษ์ใหญ่จากภูมิภาคเอเชีย ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรมการผลิตของโลก

อ่านต่อ >>