วางแผนภาษีเพื่อการเกษียณอย่างคุ้มค่า กับธีม AI โตเด่นระยะยาว

file

หลายคนที่กำลังมองหาการลงทุนที่ช่วยลดหย่อนภาษีไปพร้อมกับมีเงินเก็บไว้ใช้ยามเกษียณ อย่างการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) สิ่งสำคัญเลยก็คือ การเลือกธีมลงทุนที่มีแนวโน้มการเติบโตของรายได้และกำไรที่โดดเด่นในระยะยาว เนื่องจากการลงทุนใน SSF/ RMF เป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งธีมการลงทุนที่เป็นหนึ่งใน Megatrends และมีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดดในระยะยาว นั่นก็คือธีม AI ที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของเทคโนโลยีทั่วโลกเลยก็ว่าได้

AI (Artificial Intelligence) มีแนวโน้มเป็นตัวขับเคลื่อนนวัตกรรม ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (Disruption) ในทุกอุตสาหกรรมของโลกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุค Internet เลยก็ว่าได้ โดยมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ การทำงาน และวิถีชีวิตประจำวันของเรา โดยมีข้อมูลจาก Markets and Markets บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยทางการเงินสหรัฐฯ ระบุว่า ขนาดตลาด (Market size) ของ AI ทั่วโลกปี 2023 มีมูลค่าอยู่ที่ราว 150,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ย (CAGR) มากถึง 36.8% ต่อปีไปจนถึงปี 2030 ซึ่งคาดว่า ธุรกิจ AI ทั่วโลกจะมีรายได้สูงถึง 1,345,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2030 อีกทั้งยังมีคาดการณ์ว่า AI น่าจะผลักดันให้มูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในปี 2035 ด้วย

ทั้งนี้ AI ไม่ได้จำกัดการลงทุนอยู่แค่เพียงธุรกิจเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่นำ AI มาใช้เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจด้วย โดยสามารถแบ่งประเภทของ AI ได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ

1. AI Infrastructure : เป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI เพื่อรองรับกระบวนการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งาน ประกอบด้วย Big Data, Cloud, Internet of Things และ Mobile ยกตัวอย่างธุรกิจเช่น Amazon เป็นบริษัท E-Commerce และ Cloud Computing ยักษ์ใหญ่ มีรายได้ในไตรมาส 2/2023 เติบโต 11% อยู่ที่ 134,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และบริษัทคาดว่า ใน Q3/2023 รายได้จะยังเติบโตต่อเนื่องราว 9-13% หรืออยู่ที่ประมาณ 138,000-143,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

2. AI Applications : เป็นการพัฒนา Software และ Applications เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกและการตัดสินใจที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ประกอบด้วย Intelligent Automation, Social, Robotics, Cognitive Systems, Deep Learning และ Machine Vision ยกตัวอย่างธุรกิจเช่น บริษัท Adobe ผู้พัฒนา Software ผลิต และจำหน่ายโปรแกรมกับ Applications ที่เกี่ยวข้องกับงานออกแบบกราฟิก แต่งรูปภาพ ตัดต่อวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็น Photoshop, Illustrator, InDesign และ Acrobat Pro เป็นต้น มีรายได้ในไตรมาส 2/2023 โต 10% YoY อยู่ที่ 4,820 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และบริษัทคาดการณ์ว่า ใน Q3/2023 รายได้จะยังเติบโตราว 9.8% YoY อยู่ที่ 4,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

3. AI-enabled Industries : การนำ AI มาใช้ประโยชน์ในกระบวนการทางธุรกิจ ประกอบด้วย Advertising, Agriculture, Energy, Media, Automotive, Aerospace, Retail, Transportation, Construction, Finance, Manufacturing, Legal, Health care, Education และ Real Estate ยกตัวอย่างธุรกิจด้านสุขภาพอย่าง บริษัท UnitedHealth Group ที่มี AI อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ช่วยทำการวิจัย ประมวลผล คิดค้นยาใหม่ ๆ รวมถึงช่วยให้แพทย์วิเคราะห์ผลและทำการวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว สามารถให้การรักษาที่ดีที่สุดและตรงจุดแก่ผู้ป่วย โดยทำธุรกิจให้บริการสุขภาพด้วยเทคโนโลยี (Optum Health) มีรายได้ไตรมาส 2/2023 โตกว่า 33% YoY ธุรกิจ Software วิเคราะห์ข้อมูลและบริการให้คำปรึกษาแก่องค์กรทางการแพทย์ (Optum Insight) มีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมถึงธุรกิจค้าปลีกยาและเป็นตัวกลางระหว่างบริษัทยากับประกันสุขภาพ (Optum Rx) ที่รายได้โตกว่า 15% YoY

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า ธุรกิจ AI ยังมีอนาคตอีกมาก ซึ่งสอดคล้องกับการลงทุนเพื่อการวางแผนภาษี เนื่องจากทั้ง SSF/ RMF เงื่อนไขจำเป็นต้องถือระยะยาวอยู่แล้ว โดย SSF ต้องถือไม่น้อยกว่า 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ ขณะที่ RMF ถือขั้นต่ำ 5 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรก และขายออกได้ตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ซึ่งจะทำให้เราสามารถประหยัดภาษีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไปพร้อมกับโอกาสสร้างผลตอบแทนเพื่อการเกษียณสุขจากการลงทุนใน AI ที่มีโอกาสเติบโตยอดเยี่ยมในระยะยาวอีกด้วย

บทความโดย วิภาดา ศุภกุลวณิชย์ AFPT™

Assistant Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

เผยแพร่ครั้งแรกที่เว็บไซต์ SET Investnow

บทความล่าสุด

กิจกรรม M&A กำลังจะกลับมา กลุ่ม Biotechnology ได้ประโยชน์สูงสุด

โพสต์เมื่อ 7 พฤษภาคม 2567

นอกจากนวัตกรรมการค้นคว้ายาชนิดใหม่รวมถึงการนำเทคโนโลยีอย่าง AI เข้ามาช่วยในการวิจัยยารักษาโรคหายาก กิจกรรมการควบรวมกิจการ หรือ M&A ก็นับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีความสำคัญต่อราคาหุ้นของกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)

อ่านต่อ >>

FDA อนุมัติยาสูงสุดในรอบ 5 ปี โอกาสทองลงทุน Biotech

โพสต์เมื่อ 7 พฤษภาคม 2567

FDA สหรัฐฯ กลับมาอนุมัติยาสูงสุดในรอบ 5 ปี ( FDA คือ องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ) โดยในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา จำนวนยาที่ได้รับอนุมัติจาก FDA เพิ่มขึ้นถึง 100% โดยเฉพาะปี 2023 ที่ FDA มีการอนุมัติยาสูงสุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่ 55 รายการ

อ่านต่อ >>

Biotech หุ้นนวัตกรรมยายุคใหม่ ที่ต้องมีไว้ในพอร์ต

โพสต์เมื่อ 7 พฤษภาคม 2567

หากนึกถึงหุ้นกลุ่ม Healthcare นักลงทุนส่วนใหญ่มักนึกถึงบริษัทยาขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงแต่มีการเติบโตที่ช้า ทำให้นักลงทุนมักเหมารวมหุ้นกลุ่ม Healthcare เป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่ไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงและเป็นเพียงแค่หลุมหลบภัยในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนเท่านั้น

อ่านต่อ >>