กำไรแบบไม่สนตลาด ด้วย Complex Fund ตอบโจทย์การวางแผนเกษียณ

file

     อยากลงทุนให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง แต่ก็ไม่อยากรับความเสี่ยงขาดทุนเงินต้น เพื่อแก้ปัญหาผู้สูงอายุในปัจจุบัน การลงทุนในกองทุน Complex Fund คือคำตอบ

     ด้วยปัจจุบันสถานการณ์ผู้สูงอายุในไทยยังทวีความรุนแรง จากสัดส่วนประชากรไทยในปี 2565 มีคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี สูงถึง 18.3% ในขณะเดียวกันจากผลสำรวจพบว่า ราว 60% ของคนไทยมีฐานะทางการเงินที่เปราะบาง ทำให้การวางแผนการเงินในช่วงหลังเกษียณอายุการทำงานจำป็นที่จะต้องให้ความสำคัญถึงความปลอดภัยของเงินต้น ตลอดจนได้รับผลตอบแทนที่เพียงพอ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนเงินต้นและให้มีเงินเพียงพอเพื่อใช้จ่ายในช่วงหลังเกษียณอายุ การลงทุนในตราสารที่มีความซับซ้อนหรือ Complex Product จะช่วยปิดข้อจำกัดการลงทุนแบบเดิมที่ยังสามารถขาดทุนเงินต้นหรือได้รับผลตอบแทนที่ไม่เพียงพอได้

การลงทุนในกองทุนตราสารซับซ้อน (Complex Fund) เกิดจากการรวมการลงทุนหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน เช่น ลงทุนในตราสารหนี้ 98 - 99% ของเงินลงทุน และเมื่อเวลาผ่านไปกองทุนจะได้รับดอกเบี้ย ซึ่งทำให้เงินลงทุนจำนวนดังกล่าวกลับมาเป็น 100% ส่วนเงินลงทุนที่เหลืออีก 1 - 2% จะลงทุนในตราสารอนุพันธ์ประเภทสัญญาใช้สิทธิ์ หรือ Option ซึ่งจะอ้างอิงผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงของดัชนีหรือราคาสินทรัพย์อ้างอิง อาทิ Stock Index ราคาหุ้นรายตัว ราคาทองคำ หรือแม้กระทั่งราคากองทุนอื่นด้วยเช่นกัน

โดยกองทุนประเภท Complex Fund มีด้วยกันหลายชื่อ หลายแบบ ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของแต่ละกองทุน อาทิ Bullish / Bearish Shark Fin เพื่อเปิดโอกาสรับผลตอบแทนในช่วงที่สินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง และ Double / Duo Shark Fins ที่สามารถได้กำไรทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง และถึงแม้จะมีหลายรูปแบบ แต่ใจความสำคัญมีความคล้ายกัน คือการลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินต้น รวมถึงได้รับผลตอบแทนส่วนหนึ่งจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิง

ในการลงทุนกองทุน Complex Fund มีประเด็นที่เราต้องให้ความสำคัญอยู่หลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ระยะเวลาของกองทุน (มักมีระยะเวลาการลงทุนที่แน่นอน) สินทรัพย์อ้างอิง ผู้รับประกันการชำระเงิน สัดส่วนการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ กรอบการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์อ้างอิง (Barrier) ตลอดจนส่วนร่วมของผลตอบแทนที่เราได้รับ (Participation Ratio)

ตัวอย่างเช่น เราลงทุนในกองทุนซับซ้อนแบบ Duo Shark Fins / Double Shark Fins ที่มีอายุ 1 ปี ซึ่งจะได้รับผลตอบแทน 40% (Participation Ratio) จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี MSCI All Country World Index ทำให้ไม่ว่าดัชนี MSCI All Country World Index จะขึ้นหรือลงที่ 10% นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนที่ราว 4% นั่นเอง

จะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันนักลงทุนมีทางเลือกทางการลงทุนใหม่ ๆ มากมาย โดยเฉพาะนักลงทุนที่ต้องการวางแผนเกษียณอายุ จะเหมาะกับการลงทุนใน Complex Fund อย่าง Bullish / Bearish Shark Fin และ Double / Duo Shark Fins เพราะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ รวมถึงมีลักษณะพิเศษที่ช่วยลดและปิดความเสี่ยงของเงินต้นอีกด้วย

เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ TNN WEALTH

บทความล่าสุด

หุ้นกลุ่ม Healthcare ทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีหุ้นโลก

โพสต์เมื่อ 26 เมษายน 2567

ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา หุ้นกลุ่ม Healthcare กลับมาสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น จากแนวโน้มการเติบโตที่คาดว่าจะสูงกว่าตลาดโดยรวมในปีนี้ ในขณะที่ยังซื้อขายในระดับราคาที่ไม่แพงโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกลุ่มเทคโนโลยีที่เติบโตในระดับใกล้เคียงกัน ทำให้ปีนี้มีโอกาสสูงที่กลุ่ม Healthcare จะกลับมาทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีตลาดหุ้นโลก

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตสร้างกำไร ขายหุ้นสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น เบนเข็มลงทุน “หุ้น Asia ex Japan”

โพสต์เมื่อ 26 เมษายน 2567

ในปี 2024 เศรษฐกิจโลกภาพรวมเติบโตดีกว่าคาด โดยภูมิภาคที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดคือ ภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่จะเติบโตได้ดีในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว และยังเป็นปีแห่งโอกาส

อ่านต่อ >>

จับจังหวะทำกำไร กับขาขึ้นรอบใหม่ของตลาดหุ้น Asia

โพสต์เมื่อ 26 เมษายน 2567

ตลาดหุ้นเอเชีย (Asia ex Japan) ถือเป็นตลาดหุ้นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงไม่แพ้ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) โดยเฉพาะในฝั่งของภาคการผลิตที่บริษัทยักษ์ใหญ่จากภูมิภาคเอเชีย ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรมการผลิตของโลก

อ่านต่อ >>