ล็อกเป้าให้ชัด แล้วทำทันที ข้อคิดชีวิตจาก “เศวต เศรษฐาภรณ์”

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 58 | คอลัมน์ All Around Me

file

“แซม-เศวต เศรษฐาภรณ์” นักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติไทย ที่ถูกกล่าวถึงในสื่อต่างๆ ในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทยที่มีอายุมากที่สุดถึง 58 ปี และติด 1 ใน 10 นักกีฬาอายุมากที่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น เขาบอกว่า ถึงใครๆ จะมองว่า เขาอายุเยอะ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะสิ่งที่เขาทำและความมุ่งมั่นทำตามความฝันต่างหาก คือคุณค่าที่ไม่มีวันหมดอายุ“เรื่องนี้อยู่ที่วิธีคิด เราต้องรู้คุณค่าของตัวเอง ถ้าเราด้อยค่าตัวเอง หรือ เรากลัว เราจะทำอะไรสำเร็จได้ยาก ฉะนั้นเราต้องเริ่มจากการเคารพตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเองก่อน ถ้าคิดแบบนี้ได้ ไม่ว่าอะไรก็ตาม เราก็สามารถที่จะทำได้” เศวตกล่าว

จาก นักบิน สู่ นักกีฬายิงเป้าบิน

เมื่อความสุขของการได้ทำอาชีพที่ฝันอย่างนักบิน ทำให้คนเป็นแม่ต้องเป็นห่วงและกังวลทุกครั้งที่ลูกขึ้นบิน เศวตจึงตัดสินใจหันหลังให้วงการนักบิน หลังจากบินมาเกือบสองพันชั่วโมง และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นสู่เส้นทางนักกีฬาในวัย 41 ปีของเขา

เศวตเล่าว่า หลังจากที่เขาได้เรียนและฝึกฝนยิงเป้าบิน ประเภทแทร็ป เขาก็รู้สึกหลงรักในเสน่ห์ของกีฬาชนิดนี้ทันที นั่นคือ การที่เราไม่อาจรู้ได้เลยว่า เป้าจะบินมาจากทางไหน ทำให้เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเขาใช้เวลาในการฝึกฝน 1 ปี ก็ได้รับโอกาสเป็นตัวแทนนักกีฬายิงเป้าบินชายทีมชาติไทยไปแข่งขันซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ แต่ผลการแข่งขันครั้งแรกกลับไม่เป็นดั่งหวัง แม้ในรอบคัดเลือกเขาจะได้คะแนนเป็นที่หนึ่ง แต่ในรอบแข่งขันชิงเหรียญ ด้วยความตื่นเต้นและปัจจัยต่างๆ ทำให้คะแนนของเขาอยู่รั้งท้ายตาราง 

file

ความผิดหวังในครั้งนั้น ไม่ได้ทำให้เขาละทิ้งความมุ่งมั่น กลับเป็นแรงขับเคลื่อนทำให้เขาก้าวไปสู่ตัวแทนทีมชาติไทยอีกครั้งในการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่อย่าง “โอลิมปิกเกมส์ 2020” ที่ญี่ปุ่น พร้อมเป็นตัวแทน ทีมชาติไทยถือธงไตรรงค์ในพิธีเปิดการแข่งขัน (ด้วยสถานการณ์ COVID-19 จึงถูกเลื่อนมาจัดในปี 2021 เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาแทน)

ก่อนจะเข้าสู่สนามโอลิมปิกในครั้งนี้ เขาลองผิดลองถูก ศึกษาฝึกฝนกีฬายิงเป้าบินด้วยตนเองอยู่ 4 - 5 ปี จนพาตัวเองเข้าไปอยู่ในรายการแข่งขัน เวิล์ด คัพ และติดหนึ่งใน 150 รายชื่อของนักกีฬายิงเป้าบินระดับโลก “การแข่งขัน เวิล์ด คัพ จะมีนักกีฬาที่ได้เข้าร่วม 150 คน โดยชื่อของทุกคนจะถูกพิมพ์เรียงลำดับลงในกระดาษ A4 กระดาษ 1 แผ่น จะมีชื่อนักกีฬา 25 คน ดังนั้น 150 คน จะมีกระดาษ 6 แผ่น ซึ่งชื่อของผมก็อยู่ที่แผ่นสุดท้าย แต่ผมก็ค่อยๆ แก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง จนชื่อของผมขยับขึ้นมาอยู่ที่แผ่นที่ 5 ที่ 4 และมาอยู่ในแผ่นที่ 2 แล้วก็ค้างอยู่ที่แผ่นนี้นานอยู่หลายปี จนเพื่อนนักกีฬาแนะนำว่า ต้องหาโค้ชมาช่วยปลดล็อกศักยภาพ จึงทำให้ผมได้รู้จักกับโค้ช มาร์โก้ คอนติ ซึ่งเป็นชาวอิตาลี”

ผ่านไป 6 เดือน หลังจากที่โค้ชได้ช่วยปรับเปลี่ยนเทคนิค วิธีการ และอุปกรณ์ ก็ทำให้ชื่อของเศวตก้าวสู่รายชื่อนักกีฬายิงเป้าบินแผ่นที่ 1 หรือติด 1 ใน 25 รายชื่อนักกีฬายิงเป้าบินในการแข่งขัน เวิล์ด คัพ ที่สหรัฐอาหรับ
เอมิเรตส์ เมื่อ 2 ปีก่อน และนั่นคือใบเบิกทางให้เขาได้ไปแข่งขันโอลิมปิกที่โตเกียวแต่กว่าที่เขาจะได้โควตานี้มา เขาก็ต้องฝ่าฝันในการแข่งขัน เวิลด์ คัพ ไม่ใช่น้อย เพราะในรอบคัดเลือกให้เหลือ 6 คนสุดท้าย ในลำดับที่ 6 มีคะแนนเท่ากับถึง 8 คน และเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งคู่แข่งทุกคนต่างมีโปรไฟล์เป็นแชมป์ หรือได้เหรียญจากรายการแข่งขันต่างๆ มาแล้วทั้งสิ้น มีเพียงเขาคนเดียวที่ไม่เคยได้เหรียญใดๆ เลย แต่ด้วยกำลังใจจากภรรยาที่เชื่อมั่นในตัวเขา ก็ทำให้เขาสู้และยิงเป้าบินจนได้คะแนนเป็นที่ 2 พร้อมคว้าโควตาเข้าแข่งขันกีฬายิงเป้าบินในโอลิมปิกที่โตเกียวได้สำเร็จ

file

เป้าบิน หรือ เป้าหมาย เริ่มได้ที่ความคิด

ในการแข่งขันโอลิมปิกที่ผ่านมา วันแรกของการแข่งขัน เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งร่วม และในการแข่งขันวันที่สอง เขาก็พลาดเป้าไปเพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความฝันของเขาจบลง กลับเป็นเป้าหมายใหม่ที่ทำให้เขาอยากที่จะกลับไปสู้ศึกโอลิมปิกในครั้งต่อไปที่ฝรั่งเศสอีกครั้ง

“ประสบการณ์โอลิมปิกในครั้งแรกที่ญี่ปุ่น ทำให้ผมทราบแล้วว่า ควรจะต้องทำอะไรต่อ จะต้องแก้ไขจุดบกพร่องใดบ้าง ซึ่งนั่นจะมาช่วยในการออกแบบแผนฝึกซ้อมให้มีความพร้อมมากขึ้นในการก้าวสู่การคัดเลือกเป็นตัวแทนทีมชาติไทยและการแข่งขันโอลิมปิกในครั้งถัดไป และอีกสิ่งที่ทำให้ผมมีพลัง คือผมรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ได้เป็นตัวแทนในนามประเทศไทยและทำให้คนทั่วโลกรู้จักประเทศไทยมากขึ้น”

แม้โอลิมปิกในอีก 3 ปีข้างหน้า เขาจะมีอายุ 61 ปี ซึ่งหลายคนอาจมองว่า อายุที่เพิ่มขึ้นจะเป็นอุปสรรคในการแข่งขันของเขา แต่สำหรับเศวตแแล้ว นี่คือจุดแข็งสำคัญที่ทำให้เขากินขาดคนที่อายุน้อยกว่า “อายุที่มากทำให้ผมยิ่งมีความสุขุมรอบคอบมากขึ้น และยิ่งเขามองว่าเราอายุมาก เขาก็จะตัดเราออกจากคู่แข่ง ทำให้ในหลายๆ ครั้ง เพื่อนนักกีฬาด้วยกัน จึงมักจะเข้ามาให้ความรู้ เทคนิค และมุมมองดีๆ ที่ทำให้ผมนำมาปรับใช้กับการเล่นของผมได้”

เศวตเล่าต่อว่า “อะไรที่เป็นข้อด้อย ให้เราปรับมาเป็นจุดเด่น และอะไรที่เขาดูถูกเรา ให้เราปรับคำสบประมาทเหล่านั้น มาเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ซึ่งทั้งหมดนี้ปรับได้ง่ายมาก เพียงแค่เราเริ่มต้นปรับจากวิธีคิดของเรา” ด้วยวัยวุฒิที่ทำให้เขามีความสุขุมรอบคอบแล้ว การเป็นนักบินและนักธุรกิจก็ช่วยเขาในเรื่องของความละเอียดรอบคอบ เขาจึงให้ความสำคัญในเรื่องของการวางแผน ตั้งแต่การวางแผนฝึกซ้อมไปจนการวางแผนในทุกการแข่งขัน โดยเริ่มต้นจากการกำหนดเป้าหมาย (Goal Setting) เป็นอันดับแรก จากนั้นจึงวางแผน เพื่อกำหนดว่าอะไรควรทำก่อนและหลัง 

“เราต้องมีเป้าหมาย และต้องประกาศดังๆ ให้คนรับรู้ เพราะเมื่อเราประกาศไปแล้ว คำพูดจะเป็นนายเรา และเป็นแรงผลักให้เราทำได้สำเร็จ ซึ่งความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ เราอาจจะต้องยอมสละเวลาความสนุกบางอย่างเพื่อเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ ผมจึงเอาเวลาที่เหลือจากการจัดสรรให้งาน ให้ครอบครัวแล้วมาทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ และนอกเหนือจากการฝึกซ้อมแล้วคือการให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ”

เศวตเสริมว่า กีฬายิงเป้าบิน เป็นกีฬาที่ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองเพียงแค่ 30 นาที โดย 1 รอบ จะมี 25 เป้า ดังนั้น เรื่องการวางแผนการเล่นและความมุมานะในการฝึกซ้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญและอีกหนึ่งสิ่งคือการควบคุมสติและอารมณ์ของตัวเอง เพราะการยิงปืนต้องใช้ความนิ่งและความแม่นยำ หรืออาจกล่าวได้ว่า มันคือการแข่งขันกับตัวเอง และการเอาชนะความกดดันและความคาดหวังของตัวเอง อย่างเวลาที่เรายิงได้คะแนนดี เราก็จะเกิดความโลภ แต่ถ้าเรายิงได้ไม่ดี เราก็จะเกิดความกลัว ซึ่งนักกีฬายิงเป้าบินต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการ “รักษาสมดุล” ความรู้สึกเหล่านี้”

สำหรับเศวตแล้ว วัยไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเริ่มต้นทำตามฝัน เพราะไม่ว่าจะรวย จะจน จะอายุมาก จะอายุน้อย ทุกคนมีต่างล้วนมีความฝัน และทุกความฝันต้องใช้เวลาในการทำให้สำเร็จ ไม่มีอะไรเป็นทางลัด ซึ่งหลักการง่ายๆ ในการคว้าฝันของเขาก็คือ “สิ่งที่เราทำวันนี้ คือสิ่งที่เราวางแผนมาตั้งแต่เมื่อวาน” เขาจึงอยากให้คนที่มีฝันทุกคน รีบลุกขึ้นมาวางแผนว่าจะทำให้ฝันนั้นเป็นจริงได้ยังไง และด้วยหลักการใช้ชีวิตและวิธีคิดแบบเศวต จึงทำให้ชายในวัย 58 ปียังดูสนุกและมีชีวิตชีวากับทุกสิ่งที่เขาทำ

เศวต เศรษฐาภรณ์

นักกีฬาทีมชาติไทยที่มีอายุมากที่สุด ในการแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น และเจ้าของบริษัท เอลต้า จำกัด ผู้ผลิตถุงเท้าส่งออก เป็นคุณพ่อของลูกสาว 2 คน ที่ 1 ใน 2 กำลังฝึกฝนกีฬายิงเป้าบินตามรอยคุณพ่อ ผลงานการแข่งขันที่ผ่านมาของเขา ได้แก่ อันดับ 17 ยิงเป้าบินแทร็ป โอลิมปิก 2020 เหรียญทองประเภทบุคคล และทองแดงประเภททีม ซีเกมส์ ปี 2019 ที่ฟิลิปปินส์ และอันดับ 2 ไอเอสเอสเอฟ เวิลด์ คัพ 2019 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

file