Bentley in the Air ดีไซน์หรูไร้ขอบเขต ประสบการณ์สุดพิเศษเหนือเส้นขอบฟ้า
นิตยสาร Trust ฉบับที่ 63 | คอลัมน์ On The Move
ด้วยแรงบันดาลใจจาก “Bentley Mulliner Bacalar” รถยนต์เปิดประทุนแบบสองประตูสุดเอ็กซ์คลูซีฟแห่งยุค สู่ที่สุดแห่งการตกแต่งอากาศยานส่วนตัวดุจงานศิลป์ชิ้นเอก
ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เบนท์ลีย์ (Bentley) ยนตรกรรมระดับตำนานสัญชาติอังกฤษ พร้อมด้วยเฟล็กซ์เจ็ต (Flexjet) ผู้ผลิตอากาศยานส่วนตัวที่หรูหราที่สุดในโลก เผยโฉมยนตรกรรมอากาศยานระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ (Ultra-Luxury) ที่เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์น่าหลงใหล เพื่อการท่องโลกอย่างสง่างามของนักเดินทางที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน
โดย เคนเนธ ซี. ริชชี (Kenneth C. Ricci) หรือ “เคนน์ ริชชี” ผู้ก่อตั้งบริษัทเฟล็กซ์เจ็ต ซึ่งเป็นลูกค้าของเบนท์ลีย์มาอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้ครอบครอง Bentley Mulliner Bacalar อัครยนตรกรรมแบบเฉพาะตัวที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 12 คันในโลก ได้สร้างสรรค์โปรเจกต์พิเศษที่เรียกว่า “The Bacalar Project” ร่วมกับมูลลิเนอร์ (Mulliner) ทีมดีไซน์ Custommade ของเบนท์ลีย์ เพื่อรังสรรค์อากาศยานสุดเอ็กซ์คลูซีฟ 2 ลำใหม่ขึ้น นั่นคือ “เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว รุ่น Gulfstream G650” และ “เฮลิคอปเตอร์ รุ่น Sikorsky S-76” ที่ถ่ายทอดรายละเอียดงานออกแบบอันเปี่ยมไปด้วยรสนิยมมาจาก Bacalar
ผลลัพธ์ของการสร้างสรรค์ ก้าวไปอีกขั้นกับพลังแห่งการผสมผสาน
อากาศยานทั้งสองลำที่เคนน์ ริชชี และทีมช่างฝีมือร่วมกันสร้างสรรค์นั้น มีดีไซน์โดดเด่นไม่ต่างกับงานตกแต่งรถ Bacalar ที่ผลิตและออกแบบขึ้นตามคำสั่งเฉพาะของเคนน์ ริชชี ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษเพียงรุ่นเดียวในโลก หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป็นการหยิบยกงานดีไซน์จากรถยนต์รุ่นนี้มาใส่ไว้ในอากาศยานก็คงไม่ผิดนัก
สำหรับรถ Bacalar ของริชชี เขาเลือกตกแต่งด้วยสีพิเศษที่หายากอย่างเฉดสีเหลือง Julep และได้ส่งต่อนิยามของความไม่ธรรมดานี้ไว้บนลวดลายกิ้งก่าของอากาศยานทั้งสองลำ โดยทั่วไปลวดลายดังกล่าวจะเป็นเฉดสีแดง-ทอง ทว่าเขาเลือกแต่งแต้มแทนที่ด้วยไฮไลท์สีเงิน-สีเขียว Moss Green ซึ่งเป็นเฉดสีพิเศษที่มูลลิเนอร์ใช้ในรถ Bacalar “Car Zero” คันต้นแบบ
ในส่วนงานดีไซน์ภายในของทั้งสองลำนั้น เคนน์ ริชชี ถ่ายทอดประสบการณ์การเดินทางประหนึ่งชั้นเฟิร์สคลาสผ่านที่นั่งโดยสารที่จะสัมผัสได้ถึงความหรูหราและความทันสมัยของเบาะโทนสีขาวนวล Linen ดั่งงาช้างที่ตัดกับสีดำเทา Beluga ดูสุขุมคลาสสิก แซมด้วยสีทองแดงกับลวดลายสานพิเศษ แบบเดียวกับในรถ Bacalar ของเขาไม่มีผิดเพี้ยน ไม่เพียงเท่านี้ ชิ้นไม้ริเวอร์วูด (Riverwood) อายุกว่า 5,000 ปี ที่ตายเองโดยธรรมชาติจากที่ราบเดอะ เฟนส์ (The Fens) ทางตะวันออกของประเทศอังกฤษ ซึ่งผ่านขั้นตอนการผลิตอย่างประณีตด้วยมือที่ถูกนำมาใช้ตกแต่งภายในห้องโดยสารของรถ Bacalar ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เขาคัดสรรไม้วีเนียร์ที่เข้าชุดกัน เพื่อตกแต่งภายในห้องโดยสารของอากาศยานทั้งสองลำด้วย โดยเลือกใช้สี Satin Bronze เคียงคู่พรมแกะสลักลวดลายเพชรอันเป็นเอกลักษณ์
คุณสมบัติสุดหรู เคียงคู่มหาเศรษฐี
ว่ากันว่า Gulfstream G650 คือ สุดยอดไพรเวทเจ็ตอันดับต้น ๆ ในปัจจุบัน ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง Rolls-Royce BR725บวกกับคุณภาพการสร้างและประกอบระดับการสร้างยุทโธปกรณ์ทางทหาร โดยมีเพดานบินที่ระดับความสูง 51,000 ฟุต และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 516 น็อต (955.63 กิโลเมตร/ ชั่วโมง) จึงเป็นหนึ่งในเครื่องบินพลเรือนที่เร็วที่สุดในท้องฟ้า แม้จะบินได้เร็วเกือบเท่าความเร็วเสียง ทว่าห้องโดยสารนั้นเงียบสงบต่ำกว่า 50 เดซิเบล ต่างจากเครื่องบินพาณิชย์ที่เสียงในห้องโดยสารจะอยู่ที่ราว 85 - 105 เดซิเบล
นอกจากนี้ G650 ยังสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 19 คน และบินแบบไม่แวะพักในระยะทางถึง 7,000 ไมล์ทะเล (12,964 กิโลเมตร) หรือเทียบได้ว่าสามารถบินตรงจากสนามบินฮีทโธรว์ของอังกฤษไปยังสนามบินอื่นได้เกือบทุกแห่งในโลก อีกทั้งห้องโดยสารยังโอ่โถงด้วยเพดานสูงกว่า 1.93 เมตร โดยราคาเช่าเหมาลำต่อชั่วโมงจะอยู่ที่ราว 10,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 3.5 แสนบาท ส่วนราคาซื้อจะอยู่ที่ 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2.1 พันล้านบาท
ส่วนเฮลิคอปเตอร์ รุ่น Sikorsky S-76 ได้รับการขนานนามว่า เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและมีสถิติความปลอดภัยขั้นสูง โดยจากข้อมูลของมูลนิธิมาตรฐานความปลอดภัยทางการบิน (Flight Safety Foundation: FSF) ซึ่งได้เปรียบเทียบอัตราการเกิดอุบัติเหตุช่วงปี 1980 - 1993 พบว่าเฮลิคอปเตอร์ทั่วไปมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุอยู่ที่ 10.95 ต่อ 1 แสนชั่วโมงบิน ขณะที่ตัวเลขของ Sikorsky S-76 อยู่ที่ 3.59 ต่อ 1 แสนชั่วโมงบินเท่านั้น
อีกทั้ง Sikorsky S-76 ยังได้รับการออกแบบโดยใช้ระบบไดนามิกจากเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ S-70 ที่รู้จักกันดีในชื่อ แบล็ก ฮอว์ก (Black Hawk) ประกอบด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบชาฟต์คู่ (Twin Turboshaft Engines) โรเตอร์หลัก และหางแบบสี่ใบมีดกับเฟืองท้ายแบบยืดหดได้ โดยอากาศยานขึ้น-ลงทางดิ่งลำนี้สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ถึง 6 คนในเที่ยวบิน และสามารถบินในระยะทางไม่เกิน 300 ไมล์ทะเล (556 กิโลเมตร) สนนราคาค่าบริการต่อชั่วโมงอยู่ที่ 5,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 2 แสนบาท ปัจจุบันอากาศยานทั้งสองลำนี้ได้เข้าประจำการอยู่ในฝูงบินของเฟล็กซ์เจ็ตเรียบร้อยแล้ว
Did You Know?
● ย้อนกลับไปราวร้อยปี เบนท์ลีย์ มูลลิเนอร์ (Bentley Mulliner) คือผู้ผลิตตัวถังรถยนต์รายแรกของโลก
● แม้จะมีราคาสูงถึง 2.19 ล้านดอลลาร์-สหรัฐฯ หรือราว 72 ล้านบาท แต่ Bentley Mulliner Bacalar ที่มีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 12 คันในโลก กลับถูกจับจองและ Sold Out ก่อนเริ่มผลิตจริงเสียอีก
● เบาะแต่ละตัวของ Bentley Mulliner Bacalar ตกแต่งด้วยลวดลายตะกร้าสานที่มีความประณีตสูงถึง 148,199 ฝีเย็บ
● ชื่อ “Bacalar” มีที่มาจากแหล่งท่องเที่ยว Laguna Bacalar หรือทะเลสาบบาคาลาร์ ในประเทศเม็กซิโก ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ (เรียกกันอีกชื่อว่า ทะเลสาบ 7 สี) และเป็นไปตามธรรมเนียมที่สืบต่อกันมาของเบนท์ลีย์นับตั้งแต่ปี 2015 ในการตั้งชื่อรุ่นจากแลนด์มาร์กที่น่าจดจำของโลก
