บลจ.ทิสโก้ ตัวจริง “กองทุนหุ้นไทย”  เจ้าของรางวัล บริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม 2 ปีซ้อน  

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 64 | คอลัมน์ Exclusive

file

ในปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทย ต่างเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายจากปัจจัยลบต่าง ๆ มากมาย เช่น ความเสี่ยงที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอยในหลายประเทศ และนโยบายการเงินที่เข้มข้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แต่การทุ่มเททำงานอย่างหนักของทีมผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด ส่งผลให้กองทุนหุ้นไทยที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการ ยังคงสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า การันตีด้วยรางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนหุ้นในประเทศ (Best Fund House - Domestic Equity) จากการประกาศผลรางวัล Morningstar Awards 2023 ซึ่ง บลจ.ทิสโก้คว้ามาครองต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

file

“แน่นอนว่า รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ทำให้เราภูมิใจ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการสะท้อนกลับไปที่แนวทางการทำงานของเรา กระบวนการทำงานตามหลักปรัชญาของทิสโก้ พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย 80% ของกองทุนที่เราบริหารเข้าเกณฑ์การพิจารณาของ Morningstar ในระดับ 4 – 5 ดาว และเราจะพยายามต่อไป เพื่อรักษาผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้าของเราในระยะยาว”

อะไรคือปัจจัยของความสำเร็จในครั้งนี้... 

กองบรรณาธิการนิตยสาร TRUST มีโอกาสได้พูดคุยกับทีมผู้จัดการกองทุนของ บลจ.ทิสโก้ นำโดยคุณสุพงศ์วร เมี้ยนโภคา ผู้บริหารสายงานจัดการกองทุน คุณอนุชา หล่อทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการกองทุน – ตราสารทุน คุณนิพจน์ ไกรลาศโอฬาร และคุณภัคพล วนวิทย์ ผู้จัดการกองทุนอาวุโส ได้ร่วมเล่าถึงแนวทางการทำงานของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด จนสามารถคว้ารางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนหุ้นในประเทศ ถึง 2 ปีซ้อน

ยึดมั่นในหลักปรัชญาของ บลจ.ทิสโก้  

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ บลจ.ทิสโก้ประสบความสำเร็จและได้รับรางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนหุ้นในประเทศต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 มาจากพื้นฐานการทำงานที่ยึดมั่นในปรัชญาของกลุ่มทิสโก้ ที่เน้นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในเชิงลึกเพื่อกำหนดกลยุทธ์การลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว โดยใช้หลักการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ และบริหารจัดการกองทุนอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส” คุณสุพงศ์วรกล่าวถึงปรัชญาการทำงานของกลุ่มทิสโก้ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ก้าวสู่ความสำเร็จในครั้งนี้

ด้วยวัฒนธรรมองค์กรของกลุ่มทิสโก้ที่ให้ความสำคัญสร้างผลลตอบแทนอย่างยั่งยืนควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนมาถึงวิธีการทำงานของทีมผู้จัดการกองทุน ที่เน้นการวิเคราะห์ผลตอบแทนที่ดีบนพื้นฐานความเสี่ยงที่รับได้ ก่อนนำเสนอให้ลูกค้าพิจารณาเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับแนวทางการลงทุนของแต่ละคน พร้อมกับมีฐานข้อมูลที่ช่วยในการวิเคราะห์ การพัฒนาเครื่องชี้วัดต่าง ๆ และแบบจำลองด้านการลงทุนมาใช้เพื่อตัดสินใจลงทุนได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์เพื่อกำหนดกลยุทธ์การลงทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีความผันผวน

นอกจากนี้ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของคณะผู้บริหาร บลจ.ทิสโก้ ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานร่วมกันมามากกว่า 20 ปี ทุกคนทำงานร่วมกันเป็นทีม และมีคณะ

กรรมการ (Committee) ร่วมพิจารณากลยุทธ์การลงทุนของแต่ละกองทุนในภาพรวม ช่วยเสริมทัพการทำงานให้แข็งแกร่ง และเป็นทีมเดียวกันที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดด้านการลงทุน ซึ่งการันตีได้จากรางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยมถึง 2 ปีซ้อน ประเภทกองทุนหุ้นในประเทศ (Best Fund House - Domestic Equity) จากการประกาศผลรางวัล Morningstar Awards 2023 

“แน่นอนว่า รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ทำให้เราภูมิใจ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการสะท้อนกลับไปที่แนวทางการทำงานของเรา กระบวนการทำงานตามหลักปรัชญาของทิสโก้ พิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย 80% ของกองทุนที่เราบริหารเข้าเกณฑ์การพิจารณาของ Morningstar ในระดับ 4 – 5 ดาว และเราจะพยายามต่อไป เพื่อรักษาผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้าของเราในระยะยาว”

ส่องตัวแทนกองหุ้นไทย ผลตอบแทนสุดปัง

“ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว” เป็นหนึ่งในเกณฑ์ที่จะช่วยแยกแยะว่า บริษัทจัดการกองทุนนั้น ๆ มีฝีมือในการบริหารจัดการกองทุนเก่งกาจเพียงใด เพราะยืนยันได้ว่าผลตอบแทนที่ได้นั้น ไม่ได้เกิดจาก “โชค” หรือความ “เฮง” ของผู้จัดการกองทุนที่เลือกหุ้นถูกตัว แต่มาจากฝีมือของผู้จัดการกองทุนและปรัชญาการบริหารกองทุนของ บลจ. นั้น ๆ ที่ช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีในทุกสภาวะตลาด 

ซึ่งกองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ (TSF-A) เป็นอีกหนึ่งกองทุนหุ้นไทยของ บลจ.ทิสโก้ที่สร้างผลตอบแทนยืนหนึ่งในทุกสภาวะตลาด และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปี 2547 จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 หรือตลอด 19 ปีที่ผ่านมา กองทุน TSF-A สามารถสร้างผลตอบแทนสูงถึง 11.53% ต่อปี  

คุณอนุชา หล่อทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการลงทุน – ตราสารทุน บลจ.ทิสโก้กล่าวว่าจุดเด่นของกองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ (TSF-A) ลงทุนในหุ้นเติบโตที่มีพื้นฐานดี โดยเน้นการลงทุนเพียง 10 – 15 ตัว ที่เป็นหุ้นเด่นในแต่ละอุตสาหกรรม เป็นกองทุนที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสมตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเน้นสร้างการเติบโตในระยะยาว การันตีด้วยรางวัล Morningstar ในระดับ 5 ดาว 

“หลักการบริหารกองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ (TSF-A)  เราใช้นโยบายการลงทุนเชิงรุก หุ้นที่เราเลือก ไม่ได้มีสเป็กว่าต้องเป็นหุ้นเล็ก กลาง หรือใหญ่ แต่ต้องอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโตและเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในอุตสาหกรรมนั้น โดยทีมบริหารกองทุนใช้นโยบายเชิงรุกในการคัดหุ้นเข้าพอร์ต จะเข้าไปเยี่ยมชมบริษัท พูดคุยกับผู้บริหาร เพื่อให้เห็นทิศทางการดำเนินงานของธุรกิจ พัฒนาการและการเติบโต เราไม่ได้มองแค่ตัวบริษัท จะดูถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร เป้าหมายและการทำงาน ซึ่งถ้าผู้บริหารมีความมุ่งมั่น ไม่ใช่แค่ผลประกอบการของบริษัท แต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะได้ประโยชน์ด้วย” 

file

“หลักการบริหารกองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ (TSF-A)  เราใช้นโยบายการลงทุนเชิงรุก หุ้นที่เราเลือก ไม่ได้มีสเป็กว่าต้องเป็นหุ้นเล็ก กลาง หรือใหญ่ แต่ต้องอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโตและเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในอุตสาหกรรมนั้น โดยทีมบริหารกองทุนใช้นโยบายเชิงรุกในการคัดหุ้นเข้าพอร์ต จะเข้าไปเยี่ยมชมบริษัท พูดคุยกับผู้บริหาร เพื่อให้เห็นทิศทางการดำเนินงานของธุรกิจ พัฒนาการและการเติบโต เราไม่ได้มองแค่ตัวบริษัท จะดูถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร เป้าหมายและการทำงาน ซึ่งถ้าผู้บริหารมีความมุ่งมั่น ไม่ใช่แค่ผลประกอบการของบริษัท แต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะได้ประโยชน์ด้วย” 

สำหรับกองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ (TSF-A) เคยได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยม BEST MUTUAL FUND 2020 ประเภทตราสารทุนทั่วไป จากวารสารการเงินการธนาคาร สะท้อนถึงความเก่งของผู้จัดการกองทุนที่ต้องใช้ประสบการณ์ และเวลาในการวิเคราะห์และคัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มั่นคง และมีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจที่ดี และกุญแจความสำเร็จอีกประการ คือการตื่นตัวในการปรับเปลี่ยนหุ้นให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของกิจการและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

นอกจากกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุกจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับกองทุนภายใต้การบริหารของ บลจ.ทิสโก้แล้ว การลงทุนแบบยั่งยืนก็เป็นอีกส่วนหนึ่งในการกำหนดกลยุทธ์การลงทุนของ บลจ.ทิสโก้อีกด้วย  

คุณนิพจน์ ไกรลาศโอฬาร ผู้จัดการกองทุนอาวุโสกล่าวว่า บลจ.ทิสโก้ยึดแนวทาง ESG ในการกำหนดแนวทางการลงทุน เริ่มตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกหลักทรัพย์เพื่อการลงทุน การติดตามตราสาร รวมถึงการประเมินและปรับมุมมองการลงทุน เพราะ บลจ.ทิสโก้มองว่ากลยุทธ์การลงทุนแบบยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญในการลงทุนที่นอกจากจะสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจแล้ว ยังเป็นการลดความเสี่ยงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างมาก

file

“การลงทุนแบบยั่งยืนเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของ บลจ.ทิสโก้ โดยทีมจัดการการลงทุนกำหนดแนวทางการลงทุนเพื่อความยั่งยืนในทุกกระบวนการ และกำหนดปัจจัยด้านความยั่งยืนในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล รวมถึงการลงทุนเพื่อชีวิตที่ดี”

ซึ่งหนึ่งในกองทุนที่มีความโดดเด่นของการเลือกหุ้นโดยคำนึงถึงปัจจัย ESG คือ กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นไทย Well-being (TISCOWB-A) โดยเน้นลงทุนใน 7 หมวดธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างความกินดีอยู่ดีให้กับคนไทย ได้แก่ เกษตร พาณิชย์ แฟชั่น อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ การท่องเที่ยวและสันทนาการ ขนส่งและโลจิสติกส์ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นไทย Well-being (TISCOWB-A) ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Thematic ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี สูงถึง 11.96% ต่อปี (ข้อมูล ณ 28 กุมภาพันธ์ 2566)

นอกจากนี้ บลจ.ทิสโก้ยังมีกองทุนรวมผสม ซึ่งผู้จัดการกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทได้ตามความเหมาะสมของสภาวะตลาด โดยกองทุนมีนโยบายกระจายเงินลงทุนไปในทั้งหุ้น ตราสารหนี้ รวมถึงกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) 

คุณภัคพล วนวิทย์ ผู้จัดการกองทุนอาวุโสกล่าวว่า จุดเด่นของกองทุนรวมผสม นอกจากจะเป็นการกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภท ซึ่งมักให้ผลตอบแทนที่ดีหรือไม่ดีในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปแล้ว ยังช่วยให้ระดับผลตอบแทนขาดทุนสูงสุด (Maximum Drawdown) ของกองทุนนั้น ต่ำกว่าของกองทุนที่ลงในหุ้นสามัญเพียงอย่างเดียว นอกจากนั้น ผู้จัดการกองทุนยังสามารถสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มได้ด้วยการทำ Asset Allocation ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และสัดส่วนการลงทุน นอกเหนือไปจากการคัดเลือกหุ้นพื้นฐานดีเข้าพอร์ตตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น  

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ภายใต้สถานการณ์ที่ผันผวนอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเหตุการณ์ความไม่สงบในกลุ่มประเทศยุโรป ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและรุนแรง แต่ด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่ยืดหยุ่น ผสานกับการคัดเลือกหุ้นที่มีคุณภาพดี ทำให้กองทุนเปิด ทิสโก้ แอ็กเกรสซีฟ โกรท ฟันด์ (TISCOAGF) ซึ่งเป็น 1 ในกองทุนประเภทกองทุนรวมผสมของ บลจ.ทิสโก้สามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี สูงถึง 14.55% ต่อปี (ข้อมูล ณ 28 กุมภาพันธ์ 2566)

รอจับจังหวะลงทุนหุ้นไทยปี 66  

สำหรับมุมมองตลาดหุ้นไทยปี 2566 คุณสุพงศ์วรเปิดเผยว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยยังเผชิญปัจจัยเสี่ยงต่อเนื่อง ทั้งจากปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ภาวะเงินเฟ้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ทำให้ต้นทุนการผลิตและการเงินปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นภายในปีนี้ คาดว่าจะส่งผลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมีแนวโน้มดีขึ้นมากจากปีที่ผ่านมา

“กลยุทธ์การลงทุนในปีนี้ยังเน้นไปที่กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยไตรมาสแรกและไตรมาสสอง เน้นการประคองตัว และจับจังหวะการลงทุนตามสถานการณ์ต่าง ๆ แต่ยังคงต้องระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้” คุณสุพงศ์วรระบุ

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงรออยู่ข้างหน้า แต่สำหรับทีมผู้จัดการกองทุน บลจ.ทิสโก้ยังคงมุ่งมั่นทำงานตามปรัชญาของกลุ่มทิสโก้ ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลของพอร์ตการลงทุนทั้งในเรื่องของการเลือกหุ้น การบริหารความเสี่ยง การประเมินมูลค่าหุ้น และการหาจังหวะในการลงทุน เพื่อนำไปสู่ผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นกุญแจความสำเร็จที่ทำให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการกองทุน ส่งผลให้บริษัทได้รับรางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยมถึง 2 ปีซ้อน และที่สำคัญคือการทำให้ลูกค้าของ บลจ.ทิสโก้ “มั่งคั่ง อย่างมั่นคง” ในระยะยาว

file

* ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือแอปพลิเคชัน TISCO My Funds ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4