เมธาวี อ่างทอง กล้าที่จะทำ จนพบความสำเร็จ กับแบรนด์ Black Sugar ธุรกิจจากความหลงใหล ในวัยเกือบ 60 ปี

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 65 | คอลัมน์ All Around Me

มีคำกล่าวว่า...การทำงานและการใช้ชีวิตที่มีแพสชันเป็นเข็มทิศในการขับเคลื่อนตัวเรานั้น แม้ว่าต้องแลกมาด้วยการทำงานหนักและทุ่มเทเพียงใด ย่อมมีเหตุผลมากพอที่ทำให้เกิดความสนุกในการต้องเรียนรู้อย่างไม่มีจบสิ้น มองอุปสรรคเป็นความท้าทายที่ต้องฝ่าฟัน เพื่อให้ก้าวไปบนเส้นทางที่หลงใหลใฝ่ฝันได้อย่างแข็งแกร่ง 

file

เช่นเดียวกับคุณเมย์-เมธาวี อ่างทอง ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Black Sugar ที่แม้เริ่มต้นธุรกิจที่มาจากแพสชันตอนอายุเกือบ 60 ปีแล้วก็ตาม แต่ความหลงใหลงานศิลปะ งานออกแบบ และการบรรเจิดความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง ได้ทำให้ตัวเธอเดินทางไปสู่จุดหมายความสำเร็จด้วยแบรนด์ Black Sugar ที่ไม่เพียงสะท้อนความเป็นตัวเองได้สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ยังสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักบนเวทีแฟชั่นระดับนานาชาติ

          ต่อจากนี้คือเรื่องราวของคุณเมธาวีและ Black Sugar ที่มาจากแพสชันด้วยคำกล่าวของเจ้าตัวว่า “อายุไม่ใช่เงื่อนไข แค่กล้าที่จะลอง กล้าที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ความสุขจากสิ่งนี้แหละจะเป็นตัวเติมเต็มพลังให้เราไม่หมดไฟและสนุกกับการเดินหน้าสู่ความสำเร็จ

“สำเร็จหรือไม่สำเร็จไม่รู้ คิดแค่ว่า...ฉันต้องทำให้ได้” คุณเมธาวีเล่าถึงความคิด ณ วันที่เริ่มต้นสร้างแบรนด์ Black Sugar ตอนอายุ 57 ปี ด้วยเพราะตัวเธอมักจะกล้าลองทำสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา และกล้าเปลี่ยนชีวิตในมุมมองที่แตกต่าง

สิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนตัวตนภายใต้แบรนด์ Black Sugar ที่เธอเป็นทั้งดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ออกมาในคาแรกเตอร์ของสไตล์เสื้อผ้าที่ชัดเจน 

          “เป็นคนชอบลอง เพราะหากได้ลองแล้วไม่สำเร็จก็จะได้ไปทำอย่างอื่น ถ้าไม่ลองย่อมไม่รู้ว่าเราทำมันได้ไหม อย่างตอนสร้างแบรนด์ Black Sugar สไตล์ออกมาคือขาวดำ ก็ถูกหลายคนติงว่า ทำเฉพาะขาวดำมันจะตันเอานะ และหลายคนที่ทำก็ปิดกันไปเยอะ แต่เรากลับคิดว่า ไม่เป็นไร เราไม่กลัว อยากลองทำ ฉันจะทำให้ไม่เหมือนใคร ถึงแม้คนจะชอบสไตล์นี้มีไม่มาก แต่ต้องมีคนอย่างเราบ้างในโลกนี้ที่ชอบแบบนี้ สไตล์นี้ อาจเป็นส่วนเล็ก ๆ กลุ่มเล็ก ๆ แต่ถ้ามันใช่ก็ใช่เลยนะ หาที่ไหนไม่ได้ต้องแบรนด์นี้ ใจคิดอย่างนี้จริง ๆ คิดว่าของเราต้องแตกต่าง มั่นใจว่าตัวเองแตกต่างได้ค่ะ เลยกล้าที่จะทำเสื้อผ้าแบรนด์ Black Sugar ขึ้นมา”

    เส้นทางสู่การเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าของคุณเมธาวีไม่ได้เริ่มต้นเดินตามความฝันมาตั้งแต่วัยเยาว์ โดยเธอย้อนเล่าชีวิตวันวานในวัยเด็กว่ามาจากครอบครัวที่คุณแม่ขายของและมีลูกหลายคน ทำให้ต้องช่วยดูแลน้อง ๆ หลังจากจบ ป.4 ก็เรียนต่อศึกษาผู้ใหญ่ (ภาคค่ำ) เพื่อให้ได้วุฒิการศึกษา มศ.3 สำหรับต่อยอดการทำงานที่ดี ช่วยแม่หาเลี้ยงครอบครัว กระทั่งสอบข้าราชการได้ แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดเรียน ยังคงเรียนต่อภาคค่ำหลังเลิกงานจนสำเร็จได้วุฒิการศึกษา ปวช. และ ปวส. และมุ่งมั่นทำงานอีกหลายต่อหลายปี โดยมีโอกาสได้ศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในวัย 40 ปี และจบสุดท้ายกับปริญญามหาบัณฑิตในตอนอายุ 57 ปี

          ในระหว่างเป็นข้าราชการ ความฝันและความชอบเรื่องการแต่งตัว แฟชั่น และการออกแบบเสื้อผ้ายังคงคุกรุ่นในความคิดอยู่ตลอดเวลา ประกอบกับเงินเดือนข้าราชการที่ได้รับเริ่มไม่ค่อยเพียงพอต่อการใช้จ่าย คุณเมธาวีจึงมีความคิดที่จะพัฒนาศักยภาพตัวเองด้วยการไปเรียนตัดเย็บเสื้อผ้าที่ศูนย์ฝึกอาชีพของกรุงเทพมหานคร ทุกเสาร์อาทิตย์ที่เธอเดินทางมาหาแม่ที่กรุงเทพฯ จากนั้นก็ต่อยอดความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพเสริม

          นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่อาชีพที่เธอใฝ่ฝัน แม้ว่าเริ่มต้นจะต้องเก็บหอมรอมริบทุนซื้อจักรเย็บผ้าอยู่บ้าง ต้องหัดเย็บเสื้อผ้าทั่วไปอยู่ระยะหนึ่ง แต่ความพยายามก็คุ้มค่า เพราะเพื่อนเริ่มเห็นฝีมือและมาชวนไปทำเสื้อผ้าเด็กส่งออก และกลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ดีกว่าอาชีพเดิม คุณเมธาวีจึงตัดสินใจลาออกจากราชการและลุยธุรกิจเสื้อผ้าเด็กเพื่อการส่งออกอย่างเต็มตัว 

file

แต่ชีวิตก็พลิกผันอีกครั้งเมื่อเจอวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 ตอนนั้นเรียกว่าธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าเด็กของเธอล้มแบบหมดตัว แม้จะพยายามพลิกฟื้นธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าเด็กครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ทว่าด้วยหัวใจนักสู้ของเธอก็ไม่ย่อท้อต่อปัญหา และยังคงมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ชอบต่อไป

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หันกลับมามองที่ตัวเองอีกครั้ง บอกตัวเองให้ลองทำในสิ่งที่เราชอบ ฉันชอบแต่งตัว ชอบใส่เสื้อผ้าแปลก ๆ ชอบใส่เสื้อขาวและดำ ก็เลยว่า เออ! ลองดูไหม เริ่มที่ขายในประเทศนี่แหละ” จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Black Sugar

ตั้งแต่นั้นมา คุณเมย์เล่าว่าเธอสนุกกับงานแบบชีวิตไม่เคยได้เว้นวรรค อีกทั้งนำแบรนด์เสื้อผ้า Black Sugar ปรากฏตัวบนรันเวย์ในต่างประเทศ อาทิ MQ Vienna Fashion Week ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ให้ทุกคนได้รู้จัก

ด้วยมุมมองการใช้ชีวิตของคุณเมย์ “ถ้ามีความสุขก็คือได้ทำในสิ่งที่ชอบ” นอกจากธุรกิจแบรนด์ Black Sugar ที่มาจากตัวเองล้วน ๆ แล้ว เธอยังมีความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยว ไปสรรหาของกินอร่อย ๆ ตามใจปรารถนา

“มีความสุขกับการได้ออกไปลั้นลาบันเทิง พบเพื่อนฝูง ไปร้องเพลง ท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ บริหารจัดการเวลาเรื่องงานได้ ก็ไปเที่ยวเลย บาลานซ์ทำงานกับพักผ่อน 50:50 เป็นคนที่ไม่ได้หาเงินไว้เก็บ ไม่สะสมของ ไม่มีแบรนด์เนม ไม่มีเพชรพลอย แต่เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ไม่ใช่กินหมดใช้หมดไม่เหลืออะไรเลย ต้องมีส่วนที่เก็บเพื่อซัพพอร์ตตัวเอง ต้องพึ่งพาตัวเองได้ วางแผนอนาคตไว้แล้วค่ะ ถ้าไม่มีปัญญาเดินทางไปไหนแล้ว ก็จะทำงานศิลปะอยู่บ้าน วาดรูป ทำงานปั้น คงสร้างความสุขกับงานศิลปะสไตล์นี้” 

ส่วนคำว่า “เกษียณ” ในวัย 66 ปีของคุณเมธาวีนั้น เธอบอกว่า “ไม่เคยคิดให้ตัวเองเกษียณ อายุเท่านั้นเท่านี้คือต้องเกษียณ หยุดทำงาน แต่เราไม่เคยหยุดคิดสร้างสรรค์งานของเรา สนุกกับงานทุกวัน ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าถึงวันที่ไม่ไหว ก็เอาตัวเองออกมาดูห่าง ๆ ส่งต่อธุรกิจให้รุ่นหลังเขาไปต่อ แล้วไปทำอย่างอื่นที่อยากทำ

“ในคำว่า ‘เกษียณ’ อยากให้ทุกคนพลิกมุมความคิดในคำนี้ เป็นการออกมาใช้ชีวิตใหม่ ๆ ออกจากกรอบที่เคยเป็น วางแผนไว้เลยอยากทำอะไร มีชีวิตอย่างไร อย่าเอาคำนี้มาให้ตัวเองหยุดทำงานแล้วอยู่เฉย ๆ เกษียณคือโอกาสให้เราได้ทำสิ่งใหม่ ๆ ดีกว่า ได้ทำในสิ่งที่ชอบ สำหรับตัวเราวันนี้และในอนาคตไม่ได้มีภาพฝันชัดเจนเลย ปล่อยชีวิตไปกับสิ่งที่อยากทำ”

เมื่อถามว่า...วันนี้พอใจกับชีวิตตัวเองแค่ไหน “สำหรับเรามันเกินคำว่าพอใจไปแล้ว มันเกินกว่าความคาดหวังในการที่เราได้มาถึงตรงนี้ เพราะหากย้อนดูประวัติจริง ๆ ไม่นึกหรอกค่ะว่าผู้หญิงคนนี้จะมาได้ขนาดนี้ค่ะ” 

        “ในคำว่า ‘เกษียณ’ อยากให้ทุกคนพลิกมุมความคิดในคำนี้ เป็นการออกมาใช้ชีวิตใหม่ ๆ ออกจากกรอบที่เคยเป็น วางแผนไว้เลยอยากทำอะไร มีชีวิตอย่างไร อย่าเอาคำนี้มาให้ตัวเองหยุดทำงานแล้วอยู่เฉย ๆ เกษียณคือโอกาสให้เราได้ทำสิ่งใหม่ ๆ ดีกว่า ได้ทำในสิ่งที่ชอบ”

Trust Magazine by TISCO