เที่ยว “4 เมืองรอง” ภาคเหนือน่าม่วนใจ๋ พะเยา-ลำปาง-อุตรดิตถ์-ตาก

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 66 | คอลัมน์ Going Away

file

เข้าสู่ช่วงปลายปี หลายคนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวภาคเหนือเพื่อสัมผัสอุณหภูมิที่ค่อย ๆ เย็นลง พร้อมกับชมทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาที่สลับซับซ้อน โดยจังหวัดที่เป็นหมุดหมายแรก ๆ คงหนีไม่พ้นเชียงใหม่ แต่ Going Away ฉบับนี้ เราอยากชวนไปเช็กอิน 4 จังหวัดเมืองรองที่น่าสนใจ คือ พะเยา ลำปาง อุตรดิตถ์ และตาก ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สวยงามเช่นกัน รับรองว่าเสน่ห์เฉพาะตัวของแต่ละจังหวัด จะทำให้ทริปปลายปีนี้เต็มไปด้วยความประทับใจอย่างแน่นอน

นอนนับดาว ชมทะเลหมอก ดื่มด่ำธรรมชาติที่พะเยา

เริ่มต้นกันที่ “พะเยา” เมืองสงบท่ามกลางไลฟ์สไตล์เรียบง่าย เปี่ยมเสน่ห์ด้วยธรรมชาติสวยงามตามภูมิประเทศของเมืองเหนือที่เต็มไปด้วยภูเขา สายหมอก และความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า

สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เป็นไฮไลต์ประจำจังหวัด คือ “วนอุทยานแห่งชาติภูลังกา” ตั้งอยู่ ณ ตำบลช้างน้อย อำเภอปง มีลักษณะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนกันตามแนวเทือกเขาสันปันน้ำ ที่ระดับความสูง 900 - 1,720 เมตร ด้วยลักษณะภูมิประเทศดังกล่าว ทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับการเดินป่าท่องธรรมชาติพิชิตยอดเขา รวมถึงการชมวิวในช่วงฤดูหนาว เพราะว่ากันว่าความสวยงามของที่นี่ มีมนต์เสน่ห์จนทำให้รู้สึกราวกับว่าเข็มนาฬิกาจะหยุดหมุนชั่วคราว

หากใครหลงใหลการชมทะเลหมอก แนะนำให้มาค้างคืนที่นี่สักคืนหรือสองคืน เพื่อเพลิดเพลินกับการนอนนับดาวที่ลอยเกลื่อนฟากฟ้า โดยเฉพาะในคืนฤดูหนาวที่ท้องฟ้ามักจะโปร่ง ก่อนจะพักผ่อนเพื่อตื่นเช้ามาดื่มด่ำกับบรรยากาศอันแสนผ่อนคลาย ท่ามกลางความสงบของธรรมชาติ ที่มีหมอกล่องลอยเต็มท้องฟ้า

การเดินทางไปยังจุดสูงสุดของภูลังกาที่รถสามารถเข้าไปได้ จำเป็นต้องเดินทางด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างสูงชัน จึงต้องใช้ยานพาหนะที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัย รวมทั้งยังสามารถใช้บริการรถรับส่งของผู้คนในละแวกนั้น ที่มีความชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี

สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติแบบไม่ต้องผจญภัยมากนัก แนะนำ “น้ำตกธารสวรรค์” ที่มีน้ำสีเขียวใสราวกับมรกตชุ่มฉ่ำตลอดปี ตั้งอยู่ในบริเวณ “อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง” ที่ห่างจากตัวเมืองพะเยาราว 2 ชั่วโมง รวมทั้งยังสามารถชมความงดงามของนกยูงที่อาศัยตามธรรมชาติในละแวกนั้นอย่างใกล้ชิด และยังมี “ถ้ำใหญ่ปางงุ้น” ด้านในเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย เมื่อแสงตกกระทบจะดูงดงามระยิบระยับ หากอยากเดินพิชิตเขาสูงดอยภูนางก็ตอบโจทย์เช่นกัน ด้วยระดับความสูงของผืนป่าจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เริ่มตั้งแต่ 361 ไปจนถึงจุดสูงสุดคือ 1,222 เมตร

เมื่อกลับเข้ามาในตัวเมือง ก็สามารถไปพักผ่อนสบาย ๆ กันที่ “กว๊านพะเยา” กันได้ “กว๊าน” เป็นภาษาพื้นเมืองเฉพาะถิ่นของพะเยา หมายถึง หนองน้ำหรือบึงน้ำขนาดใหญ่ ที่นี่เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ มีพันธุ์ปลาน้ำจืดมากมาย รวมทั้งยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาชนิดต่าง ๆ เช่น ปลานิล ปลาจีน ปลาเทโพ ฯลฯ ถือเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญที่สุดของภาคเหนือตอนบน

ตามรอยอารยธรรมล้านนา ณ ลำปาง

เมืองรองที่ผู้คนมองว่าเป็นทางผ่าน แต่แท้จริงแล้ว “ลำปาง” อายุเก่าแก่กว่าพันปี ในอดีตมีความสำคัญต่ออาณาจักรล้านนาในฐานะหัวเมืองเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันยังคงมีร่องรอยอารยธรรมให้เห็นผ่านสถาปัตยกรรมเก่าแก่ การจัดแสดงในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงวัดวาอารามต่าง ๆ สำหรับผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวแบบดื่มด่ำกับบรรยากาศ ก็สามารถทำความรู้จักลำปางได้ผ่านการท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์

จุดเช็กอินแรกที่พลาดไม่ได้ คือการสักการะ “วัดพระธาตุลำปางหลวง” ที่เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลำปาง ตั้งอยู่ที่ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา ตามตำนานเมืองระบุว่า วัดนี้มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ในราวพุทธศตวรรษที่ 20 ตอนปลาย แม้จะผ่านกาลเวลามาหลายร้อยปี แต่ในปัจจุบัน วัดพระธาตุลำปางหลวงยังคงความงดงามของวิหารและโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างด้วยไม้ที่คงความสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เพราะได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีตลอดมา ไม่ว่าจะเปลี่ยนผ่านไปกี่ยุคสมัย

ไฮไลต์ของวัดก็คือ องค์พระธาตุลำปางหลวงสีทองอร่าม ฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้านนา ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ พระธาตุลำปางหลวง ถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลูหรือปีวัว เนื่องจากเริ่มสร้างในปีฉลูและสร้างเสร็จในปีฉลู ส่วนในบริเวณวัด มีสิ่งปลูกสร้างสวยงามมากมาย ทั้งซุ้มประตูโขง มณฑปพระเจ้าล้านทอง วิหารน้ำแต้ม หอพระพุทธ กุฏิพระแก้ว และบันไดนาค บริเวณด้านหน้าวัดพระธาตุลำปางหลวง มีจุดบริการรถม้าที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดให้นั่งชมเมืองด้วย

file

“อุตรดิตถ์” เมืองลับแลที่ชวนไปเที่ยวแล

file

วัดอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดลำปางที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมคือ “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” ตั้งอยู่บนภูเขาในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท อำเภอแจ้ห่ม รู้จักกันแพร่หลายในชื่อ “วัดเฉลิมพระเกียรติลำปาง” และมีชื่อเดิมว่า “วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง” ซึ่งก็ยังคงเรียกติดปากจนปัจจุบัน

ภายในบริเวณวัดแบ่งออกเป็นสามส่วนหลักตามการไต่ระดับความสูงขึ้นไป ชั้นแรกเป็นเจดีย์และอุโบสถที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปจำลองมาจากพระนิรันตราย หมายถึงปราศจากอันตราย ขึ้นไปยังชั้นสอง มีรอยพระพุทธบาทจำลองของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จารึกไว้บนแผ่นหินขนาดใหญ่ ส่วนชั้นสาม คือดอยพระบาทที่ประดิษฐานขององค์พระธาตุสีทอง มีกลุ่มเจดีย์สีขาวตั้งอยู่บริเวณริมผา เป็นทัศนียภาพเปิดโล่ง 360 องศาที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

ลำปางยังมีหลากหลายจุดเช็กอินที่จะนำผู้มาเยือนก้าวข้ามกาลเวลา ย้อนรอยหาอดีต ซึ่งเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น หม่องโง่ยซิ่น คาเฟ่เรือนขนมปังขิงเก่าแก่กว่าศตวรรษ ร้านอาหารบ้านพระยาสุเรนทร์ บาย มาดามมูเซอร์ ดำเนินการอยู่ในเรือนไม้โบราณ อันเป็นอดีตจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางคนแรก หรือจะเป็นมิวเซียมธนบดี ที่บอกเล่าเรื่องราวของชามตราไก่ของดีเมืองลำปาง และก่อนกลับอย่าลืม “นั่งรถม้าชมเมืองลำปาง” มนต์เสน่ห์สุดคลาสสิกของเมืองล้านนาแห่งนี้ที่ยังคงสร้างความประทับใจให้แขกบ้านแขกเมืองผู้มาเยือนได้ทุกครั้ง

ชื่อเล่นของ “อุตรดิตถ์” คือเมืองลับแล ซึ่งมาจากชื่ออำเภอเล็ก ๆ ของจังหวัด ที่มีเส้นทางคดเคี้ยวจึงยากต่อการเดินทาง หากไม่ชำนาญก็อาจหลงทางได้ง่าย จึงได้ชื่อว่าเมืองลับแล หมายถึง มองไม่เห็น กระทั่งกลายมาเป็นอำเภอในปัจจุบัน ส่วนความหมายจริง ๆ ของอุตรดิตถ์ แปลว่า เมืองท่าแห่งทิศเหนือ (อุตร-ทิศเหนือ ดิตถ์-ท่าน้ำ)

จังหวัดอุตรดิตถ์ตั้งอยู่ทางใต้สุดของภาคเหนือตอนบน ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่ราบสูงสลับซับซ้อน มีแหล่งธรรมชาติที่สวยงามมากมาย เริ่มกันที่ “อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว” อำเภอน้ำปาด ที่มีพื้นที่ป่าสมบูรณ์เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร จุดเด่นของที่นี่คือ “ลานสนสามใบภูสอยดาว” ซึ่งจะเป็นลานที่มีต้นสนขึ้นอยู่เต็มลาน จุดถัดไปจากลานสน คือน้ำตกขนาดเล็ก 7 ชั้น ชื่อว่า “น้ำตกสายทิพย์” แต่ละชั้นมีความสูงราว 5-10 เมตร บริเวณโดยรอบน้ำตกมีความชุ่มชื้นมาก จึงมีมอสปกคลุมก้อนหินแลดูสวยงาม แต่ต้องอาศัยความระมัดระวังขณะก้าวเดิน เพราะพื้นที่ลื่นอาจทำให้เสียการทรงตัวได้

file

“ตาก” เมืองน้ำตกอลังการและทิวทัศน์สุดตระการตา

file

ห่างไปจากภูสอยดาวราว  2 ชั่วโมงโดยทางรถยนต์ เป็นที่ตั้งของ “อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่”  ตั้งอยู่ ณ บ้านปางเกลือ ตำบลน้ำไคร้ ในอำเภอน้ำปาดเช่นกัน ไฮไลต์ของที่นี่คือต้นสักใหญ่ที่สุดในโลก ลำต้นขนาด 8 คนโอบ วัดลำต้นโดยรอบได้ 948 เซนติเมตร สูงประมาณ 47 เมตร อายุประมาณ 1,500 ปี  บริเวณโดยรอบต้นสักใหญ่รายล้อมด้วยต้นสักขนาดย่อม ที่นี่เป็นแหล่งไม้สักตามธรรมชาติแหล่งสุดท้ายของจังหวัดอุตรดิตถ์ และได้รับการตกแต่งบริเวณให้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว

จากอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ ขับรถไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือราวครึ่งชั่วโมง ก็จะถึง “อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน” ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ และเป็นจุดแบ่งเขตจังหวัดแพร่กับจังหวัดอุตรดิตถ์ ไฮไลต์ห้ามพลาดของที่นี่คือ “จุดชมวิวทะเลสาบสุริยันจันทรา” เป็นอ่างเก็บน้ำรายล้อมด้วยทิวเขา มีทิวทัศน์สวยสะกดใจ ทั้งช่วงเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น และช่วงเย็นตอนพระอาทิตย์ตก

“ตาก” คืออดีตเมืองหน้าด่านสำคัญในสมัยกรุงสุโขทัย เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในภาคเหนือรองจากเชียงใหม่ และเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีผืนป่าขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศอย่าง “ทุ่งใหญ่นเรศวร” ทั้งยังเป็นที่ตั้งของเขื่อนภูมิพล ซึ่งเป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของไทยอีกด้วย

นอกจากนี้ จังหวัดตากยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์อีกมากมาย อาทิ “น้ำตกทีลอซู” ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย “ทีลอซู” ในภาษากะเหรี่ยงหมายถึง “น้ำตกดำ” มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้นมีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบเขียวชอุ่ม ห่างจากทีลอซูไปราว 45 กิโลเมตร คือที่ตั้งของ “น้ำตกทีลอจ่อ” หรือน้ำตกสายฝน เสน่ห์ของน้ำตกแห่งนี้คือทัศนียภาพอันงดงามของสายน้ำที่ไหลจากหน้าผาสูงชัน เมื่อตกกระทบหินก็จะกระเซ็นเป็นฝอย ลักษณะคล้ายกับสายฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้า และในฤดูหนาวจะเกิดเป็นปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำ ที่สร้างความสวยงามอย่างยิ่งให้แก่น้ำตกแห่งนี้

file
file

น้ำตกอีกหนึ่งแห่งในจังหวัดตากที่ห้ามพลาดเช็กอิน คือ “น้ำตกเปรโต๊ะลอซู” ซึ่งมีชื่อเล่นว่าน้ำตกรูปหัวใจ เพราะเมื่อมองจากระยะไกลจะมีรูปร่างคล้ายรูปหัวใจอยู่กลางป่า ซึ่งมีความสูงกว่า 500 เมตร การเดินทางไปยังน้ำตกแห่งนี้ต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะต้องเดินป่าประมาณ 8 กิโลเมตร โดยใช้เวลาราว 4 - 5 ชั่วโมง ซึ่งเป็นระหว่างทางเดินขึ้น “ดอยมะม่วงสามหมื่น” ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่จัน จังหวัดตาก

สำหรับเส้นทางเดินป่าขึ้นดอยมะม่วงสามหมื่นนั้น ค่อนข้างชันและท้าทาย แต่สามารถชมความงามของธรรมชาติตลอดเส้นทางได้ ไม่ว่าจะเป็นป่าดิบเขา ป่าสนเขา ลำธาร หากสามารถพิชิตยอดดอยมะม่วงสามหมื่นได้ ก็จะได้รางวัลเป็นความงดงามของทะเลหมอกที่สวยงามในยามเช้าตรู่

ใครที่สนใจไปเที่ยวจังหวัดตาก จึงควรเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม รวมทั้งติดต่อบริษัทนำเที่ยวที่มีผู้ชำนาญทาง เพื่อให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัย และได้รับประสบการณ์อันประทับใจสูงสุด

หวังว่าเสน่ห์เฉพาะตัวของทั้ง 4 เมืองรองประจำภาคเหนือที่เรานำมาฝากกันในฉบับนี้ จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจแก่เหล่านักเดินทาง โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม