55 เมืองรองต้องไป...แล้วจะตกหลุมรัก ผ่าน 5 ประสบการณ์ 5 มนต์เสน่ห์ท้องถิ่นที่ต้องปักหมุด!

    บรรยากาศเงียบสงบของเมืองเล็ก ๆ แห่งดินแดนด้ามขวานไทย “พัทลุง” มีทะเลน้อยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดท็อปด้วยความงดงามของทะเลบัวแดงและทุ่งดอกบัวหลวง กับภาพยกยอยักษ์ของชาวประมงที่เป็นซิกเนเจอร์ โดยมีกิมมิกน่ารัก ๆ ของฝูงควายน้ำ (สัตว์ที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางการเกษตร) นับร้อยตัวอันเป็นพระเอกของที่นี่มาสร้างบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนยิ้มออกมาได้ทุกครั้ง

    “ทะเลน้อย” เป็นทะเลสาบน้ำจืดบริเวณเหนือสุดของทะเลสาบสงขลาในพื้นที่เกือบสามแสนไร่ เป็นจุดชมแสงแรกในยามเช้าที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย เราสามารถเที่ยวทะเลน้อยด้วยเรือหางยาวท้องถิ่นของชาวบ้านที่ต้องไปขึ้นเรือที่คลองปากประ โดยนอกจากล่องเรือชมทะเลบัวแดง ทุ่งดอกบัวหลวง น้องควายน้ำแล้ว ยังได้เห็นนกน้ำนานาชนิดที่ออกมาโชว์ตัวให้นักท่องเที่ยวได้พบปะตลอดทริปล่องเรือ ถึงเวลาขากลับจะเป็นเส้นทางคลองที่พาไปชมวิถีชีวิตชาวปักษ์ใต้สองฝั่งคลองจนลืมความวุ่นวายในเมืองหลวงไปได้ชั่วขณะ

    ก่อนกลับให้ขับรถขึ้นสะพานเอกชัยหรือสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาที่พาดผ่านทะเลน้อย เป็นอีกพิกัดที่แนะนำให้ไปจอดรถกลางสะพานชมความสวยงามของธรรมชาติแสนตระการตา สะพานนี้เชื่อมต่อระหว่างอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง

เยือน “สมุทรสงคราม” เที่ยวชิลล์ ๆ ใกล้กรุงเทพฯ 

    ออกเดินทางเที่ยวแบบ one day trip หรือจะค้างคืน ณ โฮมสเตย์ เพื่อเอนกายนอนสบายก็ทำได้ไม่ยาก โดยไฮไลต์ของเมืองสมุทรสงครามคือตลาดน้ำอัมพวาชื่อดังที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวกันได้จนถึงเย็น แต่อย่าเพิ่งเบื่อเที่ยวตลาดน้ำที่นี่ เพราะนอกจากเสน่ห์ที่แตกต่างด้วยวิถีแบบไทย ๆ กับพ่อค้าแม่ค้าที่พากันพายเรือมาขายอาหารและเครื่องดื่มให้อิ่มอร่อยและซื้อหากลับบ้านทั้งขนมไทย อาหารทะเล ผัดไทย ผักและผลไม้ ยังมีกิจกรรมไฮไลต์เด่น ๆ ให้ลงเรือหางยาวล่องไปตามแม่น้ำแม่กลอง ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมฝั่งคลอง

    โดยมีโปรแกรม “ล่องเรือไหว้พระ” ตามวัดริมแม่น้ำด้วย หรือใครมีเวลาพักผ่อนโฮมสเตย์ที่นี่สักคืน สามารถ “ล่องเรือชมหิ่งห้อย” ท่ามกลางบรรยากาศที่รายล้อมด้วยความมืด สายลมเย็น ๆ ปะทะผิวหน้า สูดอากาศดี ๆ ลึก ๆ นั่งชมหิ่งห้อยส่องแสงระยิบระยับบนต้นลำพูตลอดทาง รีชาร์จพลังให้ร่างกายรีเฟรชขึ้นมาได้เป็นอย่างดีเลย

    สำหรับใครที่เลือกพักผ่อนนอนค้างคืนที่นี่ เชื่อว่าบรรยากาศริมน้ำดีต่อใจ ฮีลใจให้เต็มไปด้วยความสุขและความประทับใจได้อย่างแน่นอน และอย่าลืม...ตื่นแต่เช้าตรู่มาตักบาตรทางน้ำ จะเป็นอีกวันที่ให้ความรู้สึกสงบผ่อนคลายสบายใจ

รู้ไหมว่า...เที่ยวเกาะช้างมีให้เลือกฝั่งซ้ายและฝั่งขวา

    หากคุณเป็นสายธรรมชาติแนะนำให้มาเยือนฝั่งซ้ายของเกาะช้าง เพราะมีป่าชายเลนบ้านนาในสลักเพชรที่มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนบนสะพานสีแดงทอดยาวไปจนถึงปากอ่าวที่คุณจะถูกใจ และอย่าลืม “ล่องเรือมาด” เรือท้องถิ่นสมัยก่อนของชาวบ้านชุมชนบ้านสลักคอกอนุรักษ์ไว้ ให้บริการนักท่องเที่ยวล่องเรือชมป่าโกงกางตามลำคลองที่เชื่อมสู่ปากอ่าว เสียงเล่าลือว่าน้ำที่นี่ใสแจ๋วเห็นตัวปลานานาชนิด

    ส่วนใครที่หลงใหลชายหาด น้ำใส ๆ และเสียงคลื่น ฝั่งขวาของเกาะช้างมีหาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้ หาดท่าน้ำ (Lonely Beach) และอ่าวบางเบ้า (อ่าวนี้มีท่าเรือข้ามไปเกาะต่าง ๆ ได้ เช่น เกาะกูด เกาะหมาก และเรือสำหรับทริปดำน้ำชมปะการัง) ไฮไลต์ของเกาะช้างฝั่งนี้คือการได้ชมพระอาทิตย์ตกดินสวย ๆ ท่ามกลางท้องฟ้าสีพาสเทลหรือ Vanilla Sky ที่ฮีลใจให้ผ่อนคลาย

    ปางช้างไก่แบ้ มีชัย เป็นอีกแห่งที่ชวนให้ไปแวะ คุณสามารถขี่ช้างเดินเล่นในป่า ลงอาบน้ำในทะเล พี่ช้างทุกตัวชอบเล่นน้ำทะเลมาก จะเป็นอีกประสบการณ์สุดสนุกที่คุณจะไม่มีวันลืม ปิดทริปด้วยการออกไปดำน้ำหมู่เกาะต่าง ๆ ใกล้ ๆ เช่น เกาะยักษ์เล็ก เกาะยักษ์ใหญ่ เกาะหวาย ฯลฯ โดยมีบริการทั้งดำน้ำแบบ Snorkeling (ดำน้ำตื้น) และการดำน้ำแบบ Scuba Diving ที่มีจุดดำน้ำเรือหลวงช้างเป็นไฮไลต์ สามารถติดต่อซื้อแพ็กเกจทัวร์ดำน้ำจากที่พักได้เลย  

เบิ่ง “สกลนคร” เมืองแห่ง 3 ธรรมและอาณาจักรผ้าย้อมคราม

ทำไมสกลนครได้ชื่อว่าเป็นเมือง 3 ธรรม คำตอบคือเพราะที่นี่มีทั้งธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม  

    “ธรรมะ” หรือแหล่งวัดสวย จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะมาไหว้พระทำบุญ ได้แก่ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองชาวสกลนคร ตื่นตาด้วยภาพจิตรกรรมอันงดงามในพระอุโบสถและขอพรขอโชคลาภกันได้ที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และอีกวัดที่สายบุญห้ามพลาดคือ วัดถ้ำผาแด่น วัดเก่าแก่อายุนับร้อยปีที่ผู้คนต่างเดินทางมาขอพร โดยมีไฮไลต์เป็นงานประติมากรรมแกะสลักหินทรายบนผาหินพระพุทธสีหไสยาสน์ขนาดใหญ่ที่งดงามราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์ ไม่เพียงแค่นี้ ยังมีวัดพระพุทธบาทน้ำทิพย์ที่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีรอยพระพุทธบาททับซ้อนกัน 7 รอย ที่มีน้ำไหลหล่อเลี้ยงตลอดทั้งปี

    “ธรรมชาติ” หรือที่เที่ยวธรรมชาติของดินแดนอีสานแห่งนี้ไม่แพ้ที่ไหน มีทั้งอุทยานแห่งชาติภูพาน โดยผานางเมินเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ที่สวยที่สุดอีกแห่งของเมืองไทยที่ต้องมาเก็บบันทึกการเดินทางไว้ รวมถึงน้ำตกคำหอม ณ เทือกเขาภูพานด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีบึงบัวอลังการอย่างอุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติที่สามารถออกไปเดินชมวิวบนสะพานทอดยาว เป็นสถานที่น่าเที่ยวอีกแห่งที่ต้องกล่าวถึง

    “ผ้าย้อมครามแห่งเมืองสกล คือต้องมี” เพราะที่นี่ได้ชื่อว่า “นครหัตถศิลป์แห่งโลก เจ้าแห่งครามธรรมชาติ” โดยหาซื้อได้จากร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากผ้าคราม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ เน็กไท ตุ้มหู กระเป๋า หมวก ผ้าคลุมไหล่ ตุ๊กตา พวงกุญแจ ฯลฯ หรือถ้าไม่อยากแค่ชอปปิงก็ลงมือทำกิจกรรมเวิร์กช็อป DIY ทำผ้าครามกันได้ รับรองทำเอง ใส่เอง ลวดลายไม่ซ้ำใครแน่นอน 

    “เมืองแพร่” เมืองเก่าแก่โบราณประตูสู่อาณาจักรล้านนา โดยในตำนานเมืองเหนือเล่าขานว่าเมืองแพร่เคยมีชื่อว่า “พลนคร” หรือ “เมืองพล” โดยเริ่มต้นเที่ยวแพร่ด้วยการไหว้พระขอพรหรือหากมีเวลาก็ปักหมุดไหว้พระ 9 วัด เพราะที่นี่มีวัดสวยงามหลายแห่ง แต่ใน 9 วัด ต้องมีวัดพระธาตุช่อแฮหรือวัดประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล ว่ากันว่า ถ้ามาแพร่แล้วไม่ได้มาวัดเก่าแก่แห่งนี้ถือว่ามาไม่ถึง เช่นเดียวกับวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร พระอารามหลวงคู่บ้านคู่เมืองของชาวแพร่ ในวัดมีเจดีย์มิ่งเมืองและเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธโกศัยศิริชัยมหาศากยมุนีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองแพร่ และมีวัดอีกแห่งที่อยากให้ไปกราบสักการะ คือ วัดจอมสวรรค์ วัดศิลปะล้านนาผสมกับศิลปะพม่าที่มีอายุกว่า 150 ปี ที่นี่เก็บรักษาคัมภีร์โบราณที่ทำจากงาช้างมาบดละเอียดแล้วแผ่ออกเป็นแผ่น ๆ ถือเป็นศิลปะวัตถุสำคัญคู่บ้านเมืองคู่เมืองแพร่อีกเช่นกัน

    นอกจากวัดวาอารามแล้ว ที่นี่ยังมีสถาปัตยกรรมช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกกันว่าอาคารลายขนมปังขิง (อาคารที่ตกแต่งด้วยไม้ฉลุผสมผสานระหว่างรายละเอียดศิลปะไทยและโครงสร้างของศิลปะสไตล์ยุโรป) ได้แก่ คุ้มเจ้าหลวงและคุ้มวงศ์บุรี ให้ไปเช็กอินถ่ายรูปกัน ส่วนใครที่สนใจผ้าโบราณสามารถเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์โกมลผ้าโบราณเพื่อชมผ้าซิ่นโบราณนานาชนิดที่เก็บรักษาเป็นอย่างดี

    แพร่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่งดงามแปลกตามากมาย โดยสถานที่ชื่อดังของจังหวัดแพร่ต้องมี “แพะเมืองผี” ในเขตป่าแพะ สวนหินมหาราช ณ อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง รวมไปถึงอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย และถ้ำผานาคอย ถ้ำขนาดใหญ่มาพร้อมตำนานความรักร้อยปีที่เต็มไปด้วยความงดงาม