file

Mystery & Magic in Mexico

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 49 | คอลัมน์ Horizon

ราวกับว่า เม็กซิโกคือดินแดนที่เปรอะเปื้อนไปด้วยมนตรา  ใครก็ตามที่ลองได้จรดสองเท้าลงย่ำแผ่นดินเม็กซิโกเป็นต้องพูดแบบนี้กันทุกคน  เพราะเม็กซิโกคือที่ที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์และอารยธรรมของอาณาจักรมายันและอาณาจักรแอซเทค   รวมถึงยังเคยเป็นอาณานิคมของประเทศสเปนยาวนานกว่า 300 ปี  ยังมีเรื่องราวของพีระมิดที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และความสดฉ่ำของทะเลแคริบเบียน ทั้งหมดนี้  ทำให้เม็กซิโกไม่เคยตกเทรนด์ในสายตานักเดินทาง มาดูกันว่า มีมุมไหนของเม็กซิโกที่อยู่ในหมวดจำเป็นต้องไปกันบ้าง

Cancun

กันกุน เป็นเมืองตากอากาศชั้นนำของเม็กซิโก ใครๆ ก็บอกว่าเป็นคนละโหมดกับเมืองอื่นของเม็กซิโก ปลอดภัย น่าเที่ยว นั่นทำให้ต้นทุนค่าทำความรู้จักกับเมืองนี้สูงกว่าเมืองอื่นๆ สำหรับนักเดินทางผู้นิยมดื่มกินแสงแดด พวกเขามุ่งหน้าไปหาโรงแรมสุดหรูแถวริมทะเลแคริบเบียน แล้วนอนผึ่งร่างให้แดดลูบไล้ผิวกายไปทั้งวัน  

ละแวก Hotel Zone จึงเต็มไปด้วยโรงแรมสุดหรู ทั้งมีเชน โนเชน ตั้งประดับหาดเคียงบ่าเคียงไหล่กันไปตลอดแนว เดินแค่ไม่กี่ก้าวก็จะสัมผัสได้ว่า กันกุนดูเป็นแหล่งพักผ่อนของคนมีสตางค์ ทั้งผังเมือง และบรรยากาศ ถูกออกแบบอย่างดีทางเดินเลียบทะเลถูกปูด้วยอิฐเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวรู้สึกสะดวกสบาย หลายคนออกมาจ๊อกกิ้งยืดเส้นยืดสาย ชาวต่างชาติบางคนจึงนิยมมาปักหลักกันที่นี่ ไม่ใช่แค่พักผ่อนแต่ถึงขั้นอพยพมาใช้ชีวิตกันเลย 

เมื่อมีอากาศดีๆ แสงแดดห่มเมืองเกือบตลอดทั้งปี มีชายหาดผืนยาวเอาไว้ให้นอนเกลือกกลิ้งปิ้งทราย ก็ไม่น่าแปลกที่กันกุนจะเป็นที่ทางของคนชอบทะเลที่สัญจรมาจากทั่วโลก

และเป็นอันรู้กันในหมู่นิยมบริโภคความบันเทิงเริงใจ ว่าที่กันกุนเขาปาร์ตี้กันได้ตลอด 24 ชั่วโมง เกาะบางเกาะ เมืองบางเมือง อาจจะปาร์ตี้กันตั้งแต่ดึกๆ ไปจนถึงสายๆ ของอีกวัน แต่ที่กันกุนไม่มีช่วงเวลาให้นักปาร์ตี้ได้พักผ่อน

ชีวิตที่ได้เอกเขนกบนผืนทราย มีแดดบ่ายลูบไล้ มีสายลมคลอเคลียไม่ห่าง ค่อยๆ ละเลียดจิบแคริบเบียนที่กันกุนเสิร์ฟให้ รับรองว่าฟินเวอร์

file

Chichen Itza

1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างชิเชน อิทซา คือสิ่งเลอค่าที่ทำให้นักเดินทางต่างมุ่งหน้ามาที่นี่

ชิเชน อิทซา อยู่ห่างจากกันกุนราวๆ 200 กิโลเมตร นักเดินทางส่วนใหญ่จึงนิยมเดินทางแบบเดย์ทริปไปเที่ยวจากกันกุน ที่นี่เป็นหนึ่งในแหล่งโบราณคดีที่สะท้อนอารยธรรมอันรุ่งเรืองเมื่อพันกว่าปีที่ผ่านมาของชาวมายาได้เป็นอย่างดี น่าสนใจตรงที่ชนเผ่ามายามีความรู้ทางด้านสถาปัตยกรรม คณิตศาสตร์ และดาราศาสตร์อย่างลึกซึ้ง

เอล คาสติลโล หรือพีระมิดของเทพคูคุลคานเป็นพีระมิดสูงที่สุดในชิเชน อิทซา ก่อร่างสร้างฐานอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสสูง 9 ชั้น แต่ละด้านมีบันไดขึ้นไปถึงยอด ด้านละ 91 ขั้น รวม 4 ด้าน มีบันได 364 ขั้น แต่พอนับชั้นบนสุดด้วย จะรวมเป็น 365 ขั้น ซึ่งเท่ากับจำนวนวันในหนึ่งปี

ก็ไม่น่าแปลกใจหรอก ถ้าองค์การยูเนสโกจะมอบสายสะพายมรดกโลกให้ แถมคนทั้งโลกยังโหวตให้ชิเชน อิทซาเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่จากการโหวตเมื่อวันที่ 7 เดือน 7 ปี 2007 อีกด้วย

ยังมีเรื่องราวของปฏิทินของชาวมายา ความช่ำชองในเรื่องดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์ จนทำนายเวลาเกิดสุริยุปราคาและจันทรุปราคาได้ล่วงหน้าเป็นเวลานาน ยังมีเรื่องนับถือเทพเจ้าที่นอกจากชาวมายาจะมีเทพเจ้าหลายองค์ ทั้งเทพดวงอาทิตย์ เทพฝน และเทพแห่งความตาย ทุกอย่างล้วนทำให้ชิเชน อิทซาน่าพิศวงยิ่งนัก

เป็นอันรู้กันในหมู่นักท่องอารยธรรมและนักประวัติศาสตร์ว่า ใน 1 ปี จะมีอยู่ 2 วัน ที่ผู้คนแห่แหนไปหาชิเชน อิทซามากกว่าปกติคือ 21 มีนาคม และ 23 กันยายน เพราะเป็นวันที่เกิดปรากฏการณ์ Equinox ตอนบ่ายๆ แสงอาทิตย์จะตกกระทบกับสันของพีระมิดเกิดเป็นเงาที่บันไดเป็นรูปตัวงู ซึ่งชาวมายันเชื่อกันว่าเทพเจ้างูของพวกเขาจะค่อยๆ เลื้อยลงมาจากยอดพีระมิดเพื่อเยี่ยมเยือนโลกมนุษย์

ใครมีโอกาสเลือกไปให้ตรงกับ 2 วันนี้ แล้วจะรู้ว่าความมหัศจรรย์มีอยู่จริง

file

Guanajuato

เม็กซิโกมีเมืองประเภท Colonial City เยอะเป็นดอกเห็ด ไม่ว่าจะเป็นซาน มิเกล เดอ เอเยนเด, วาฮากา, พูเอโบล, เมริดา และ เกเรตาโร แต่เมืองที่ถือว่าเป็นสุดยอดของ Colonial City ต้องยกให้กวานาคัวโต

ที่นี่คือเมืองที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยสีสันอันฉูดฉาด ทุกตรอกซอกซอยถูกละเลงไว้ด้วยสีส้ม สีเหลือง สีเขียว และสีแดง และไม่ว่าจะเป็นในชั้นเชิงของวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ หรือสถาปัตยกรรม กวานาคัวโตก็เพียบพร้อมสำหรับตำแหน่งเมืองมรดกโลก ยูเนสโกจึงมอบสายสะพายมรดกโลกให้เมื่อปี 1988

มุมเดียวของกวานาคัวโตที่ไม่ควรพลาดคือบริเวณจัตุรัสลา ปาส มุมที่ห้อมล้อมไว้ด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ มีสวนหย่อมอยู่ตรงกลางพอให้ชาวเมืองได้มานั่งเล่นกัน  ลานน้ำพุช่วยปรุงอารมณ์สบายให้จัตุรัส คาเฟ่ และร้านอาหารชิกๆ เก๋ๆ ที่มีให้เลือกนั่งกันตามอัธยาศัย

ยังมีมหาวิหารแห่งกวานาคัวโต วิหารสีเหลืองสด เมื่อถูกแดดหวานลงห่ม ยิ่งขับให้แจ่มจรัสเบิกบานราวกับดอกทานตะวันยามโดนแดดทาบ ยังมีจัตุรัสรีฟอร์มา โบสถ์ซานดิเอโก โรงละครฮัวเรส และตลาดประจำเมืองที่ทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์จับใจ

ด้านข้างโรงละครมีเคเบิลคาร์ ที่จะนำพาทุกคนขึ้นไปหาจุดชมวิวประจำเมืองที่อยู่บนภูเขา ด้านบนไม่ใช่แค่วิวสวยๆ แต่ยังมีอนุสาวรีย์พิพิลา ฮีโร่ของชาวกวานาคัวโตผู้ต่อสู้กับสเปนเพื่อทวงคืนอิสรภาพ

ลองทำความรู้จักกับกวานาคัวโต เพราะนี่คือเมืองที่ทำให้เม็กซิโกมีชีวิตชีวาและสีสันจัดจ้านอย่างเต็มตา

เครื่องบินร่อนเหนือชายหาดใกล้แค่เอื้อม ภาพไฮไลต์ที่เกาะเซนต์มาร์ติน

Mexico City

เม็กซิโก ซิตี้ คือนครหลวงของเม็กซิโกที่น่าค้นหาอย่างยิ่ง มุมแรกที่เหมาะจะเริ่มต้นทำความรู้จักคือจัตุรัสกลางเมืองอย่างโซคาโล จัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้ เดิมทีเคยเรียกว่าจัตุรัสอาร์มาส แต่มาเปลี่ยนเป็นจัตุรัสรัฐธรรมนูญ เมื่อต้นศตวรรษที่ 19 เพื่อเฉลิมฉลองการประกาศรัฐธรรมนูญ

ว่ากันว่า นี่คือจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เทียบเคียงกับเทียนอันเหมินและเรด สแควร์ได้สบายๆ บริเวณจัตุรัสแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของเม็กซิโกซิตี้ตั้งแต่ยุคที่สเปนเข้ามาปกครองแล้ว 

รายรอบจัตุรัสมีทั้งมหาวิหารเมโทรโพลิทัน และทำเนียบรัฐบาล อีกด้านหนึ่งของจัตุรัสคืออาคารที่ทำการของพวกหน่วยงานรัฐและกระทรวงต่างๆ

พูดถึงมหาวิหารของที่นี่ถือว่าเป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในเขตละตินอเมริกาที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ใช้เวลาในการก่อสร้างเกือบ 3 ศตวรรษ ซึ่งสร้างทับวัดเก่าของชาวแอซเทค และมีการตกแต่งผสมผสานกันหลายสไตล์มีทั้งคลาสสิก นีโอคลาสสิก และบารอค ซึ่งเมื่อเคล้ากันแล้วงดงามอลังการมาก ไม่เพียงใหญ่โตโอ่อ่าเท่านั้น แต่สำหรับชาวเม็กซิโก ซิตี้แล้ว นี่คือศูนย์รวมจิตใจของพวกเขา  

หากเดินเข้าสู่ด้านในก็จะพบว่า ที่นี่เข้มขลังเหลือเกิน มีแท่นบูชาหลายแท่นมาก  แถมยังมีห้องสวดมนต์อีกเกือบ 20 ห้อง ทุกวันนี้ชาวเมืองยังแวะเข้ามาปฏิบัติศาสนกิจกันทุกเมื่อเชื่อวัน 

อย่าลืมแวะเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลหรือเรียกกันว่าพระราชวังแห่งชาติที่อยู่เยื้องๆ กัน  เพราะสถานที่อันโอ่อ่าแห่งนี้เคยเป็นพระราชวัง แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมด้านใน ที่เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ย่อมๆ เลยทีเดียว 

ที่นี่เคยเป็นที่อยู่ของเฮอร์นัน คอร์เตส ขุนพลชาวสเปนที่เดินเรือมาพิชิตชาวแอซเทคจนครอบครองเม็กซิโกได้ ทำเนียบรัฐบาลแห่งนี้เคยใช้เป็นที่พำนักของบุคคลสำคัญในอดีตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ไปยันประธานาธิบดี ซึ่งว่ากันว่าเป็นการสร้างทับพระราชวังเดิมของกษัตริย์แอซเทค

file

ไม่ไกลจากพระราชวังแห่งชาติยังมีเท็มโปล มายอร์ มหาวิหารศักดิ์สิทธิและกลุ่มพีระมิดที่ชาวแอซเทคเชื่อว่าเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางจักรวาล ซึ่งหลังจากที่สเปนเข้ามาปกครอง ก็เผาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของชาวแอซเทค รวมถึงมหาวิหารอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

ที่อาจจะทำให้หลายคนแปลกใจคือ เม็กซิโก ซิตี้เป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์ให้แวะเข้าชมเต็มไปหมด เรียกว่าเดินเร่ไปตรงไหน ก็เจอป้ายพิพิธภัณฑ์ติดอยุ่ทุกอณูเมือง  

ไม่น่าเชื่อ ที่ข้อมูลแจ้งว่าทั่วทั้งเม็กซิโก ซิตี้มีพิพิธภัณฑ์ให้เลือกเดินสายเที่ยวมากกว่า 160 แห่ง  ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ เป็นตัวเลขที่เยอะกว่ามหานครปารีสซะอีก 

เป็นอันรู้กันในหมู่นักเดินทางที่มาเยือนเม็กซิโก ซิตี้ว่า หากต้องเฟ้นให้เหลือเพียงพิพิธภัณฑ์เดียว คงต้องไปที่พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติ ที่ไม่ได้มีแค่เรื่องราวของชาวมายันเท่านั้น แต่ยังมีรูปปั้น และโบราณวัตถุที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตของเม็กซิโกได้อย่างไม่ขาดตอน

ถ้ายังพอมีเวลา มุ่งหน้าไปที่ถนนรีฟอร์มาซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของเมือง ถนนที่ใครๆ ก็บอกว่าคล้ายถนนราชดำเนินของเรา ผ่านสวนอลาเมดา ที่มีอนุสาวรีย์ซิเลเบสตั้งอยู่ ขยับตัวไปอีกนิด เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเม็กซิโก ซิตี้คือโรงละครแห่งชาติ ที่ปรุงแต่งให้เมืองหลวงแห่งนี้ดูโก้หรูภูมิฐานขึ้นมาทันตา

เที่ยวไปให้ทั่วเม็กซิโก ซิตี้แล้วจะรู้ว่าเมืองนี้สุนทรีย์เอ่อล้นจริงๆ

file

ทั้งหมดนี้ เป็นหลายมุมของเม็กซิโกที่อยู่ในหมวดจำเป็นต้องไป หากใครได้สัมผัสกับประเทศนี้ก็จะรู้ทันทีว่า ทำไมใครๆ ก็อยากไปเม็กซิโก 

Travel’s Guide

  • เส้นทางสู่เม็กซิโก สายการบินแอร์ฟรานซ์มีเที่ยวบินไปเม็กซิโก ซิตี้ โดยต้องบินไปเปลี่ยนเครื่องที่ปารีสก่อน คลิกไปดูรายละเอียดที่ www.airfrance.com
  • คนไทยที่มีวีซ่าอเมริกาที่ยังไม่หมดอายุ สามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวเม็กซิโกได้เลย ถ้าไม่มีต้องทำวีซ่าเม็กซิโก โทรไปสอบถามที่ 0 2285 0995
  • เม็กซิโกเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว จึงมีที่พักให้เลือกหลากหลาย คลิกไปเลือกในทุกเมืองได้ที่ www.hotels.com